"บิ๊กตู่" ลอยลำ ซักฟอกไร้หมัดเด็ด

2020-02-25 16:20:03

"บิ๊กตู่" ลอยลำ ซักฟอกไร้หมัดเด็ด

Advertisement

ผ่านแค่วันครึ่ง กูรูการเมืองต่างฟันธงตรงกัน รัฐบาลเหนือฝ่ายค้านหลายขุม กับศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ


นับตั้งแต่ไม้แรก ยุทธพงษ์ จรัสเสถียร อดีต รมช.เกษตร ปัจจุบันรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซักฟอก 3 เรื่องสำคัญ รวมทั้งต่อสัญญาศูนย์ประชุมแห่งชาติฯให้เจ้าสัว และต่อสัญญาทางด่วนขั้นที่ 2 ใช้เวลาพูดยื้อเยื้อยาวนาน วนไปวนมา โดนทั้งองครักษ์พิทักษ์รัฐบาลเบรคเรื่อง"คุณประยุทธ์ และโดนประธานฯชวน หลีกภัย เบรคจนตุปัดตุเป๋ ลืมเรื่องที่เตรียมมาอภิปรายหลายคน


มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หนึ่งเดียวจากพรรคเศรษฐกิจใหม่ แม้จะแจงแจงเนิ้อหาได้ดีเรื่องสถานะเศรษฐกิจปัจจุบันเทียบกับในอดีต แต่ช้าเนิบนาบตามสไตล์จนโดนคนบุ่นอุบ เช่นเดียวกับ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ คนที่จะรับไม้ต่อจาก ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และเป็นหลานชาย "บุรุษผมขาว" ผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ คนใกล้ชิดทักษิณ ชินวัตร แม้ฟอร์มดี ชัดเจน กระทบกระทั่งรัฐบาลในที แต่โดยรวมยังไม่แจ่มเหมือนตอนอภิปรายทั่วไป ส่วนที่เด่นใช้ได้ มีเพียง จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ลูกชายป๋าสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้าน ที่ชี้ให้เห็นปัญหาและความล้มเหลวด้านเศรษฐกิจ ชนิดที่คนระดับรากหญ้าก็เข้าใจได้ และเป็นเจ้าของวลี นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล เหมือน "โรยทรายไปชายหาด"

เรียกว่า บรรดาศิษย์รักของ "สารวัตรเฉลิม" ในช่วงหนึ่งวันแรกและครึ่งวันที่ 2 ยังไม่สามารถสร้างผลงานการอภิปรายได้เป็นชิ้นเป็นอันให้ฝ่ายรัฐบาลและ "บื๊กตู่" ต้องหนักอกหนักใจอย่างที่ "ลูกพี่" อุตส่าห์คุยโวจะน็อครัฐบาลได้

แม้ฝ่ายค้านจะพยายามปรับเปลี่ยนรูปแบบ เน้นอภิปรายกระชับ ไม่ยืดเยื้อในวันที่ 2 แต่ก็ยังไม่ลื่นไหล มิหนำซ้ำยังเกิดศึกในพรรคร่วมอีกต่างหาก ระหว่าง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่ยังดึงดันจะอภิปรายเรื่องปมถวายสัตย์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาให้ได้ แม้จะโดนประธานชวน หลีกภัย ขีดกรอบห้ามไว้ตั้งแต่แรก ก็ยังฟาดงวงฟาดงาใส่วิปทั้ง 2 ฝ่าย (โดยเฉพาะฝ่ายค้าน) กล่าวหาไปตกลงไม่ให้มีซักฟอกเรื่องปมถวายสัตย์ได้อย่างไร


ขณะที่ "บิ๊กตู่" เอง ก็เตรียมตัวมาดีผิดคาด ยิ้มแย้มแจ่มใสบอกไม่ทะเลาะกับใคร เอาชนะแรงยั่วยุได้แบบชิลๆ แถมยังตีกันฝ่ายค้านไว้ตั้งแต่เริ่มต้น เรื่องสร้างปัญหาหมักหมมไม่โปร่งใสไว้ให้รัฐบาลชุดนี้แก้

แถมยังใช้โอกาสนี้ตอบคำถามฝ่ายค้านที่สร้างความประทับใจไปถึงประชาชนรากหญ้าทั่วไป อย่างเช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้มีรายได้น้อยได้จับจ่ายใช้สอยในสิ่งจำเป็นสำหรับดำรงชีพ

โดยมี ครม. เศรษฐกิจคนอื่นๆ ตั้งแต่รอง สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ คอยทำหน้าที่ลูกคู่คอยพูดเสริมเพิ่มเติม จนดูดีไปหมด รวมทั้งประโยคที่ว่า "เศรษฐกิจไทยกำลังเติบโต แต่กระจายไปยังรากหญ้าไม่เร็วพอ" ทำให้คนฟังเคลิบเคลิ้มมีความหวังขึ้นมาทันทีทันใด แม้จะมีปรากฎภาพข่าวพ่อค้าแม่ค้าห้างมาบุญครองเคลื่อนไหวเดินเรียกร้องให้ผู้บริหารห้างลดค่าเช่าลง 50% ออกมาให้สะเทือนใจในเวลาใกล้เคียงกันก็ตาม

ไม่เพียงเท่านั้น ยังปรากฎภาพ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ที่อยู่ระหว่างต้องหาพรรคใหม่สังกัดภายใน 60 วัน นับตั้งแต่โดนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค คล้องแขนกันนับสิบคนไปนั่งในบริเวณ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยนั่งรวมตัวระหว่างประชุมสภา ตามมาด้วยคลิปเสียงการเจรจาทาบทาม ส.ส.อนาคตใหม่เข้าร่วมพรรคด้วยราคาค่าตัวถึง 23 ล้านบาท

แม้นประเด็นนี้ กูรูการเมืองจะไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง เพราะอัตราค่าตัวสูงเกินเหตุ ขณะที่รัฐบาลก็มีเสียงสนับสนุนเพียงพอพ้นสภาพเสียงปริ่มน้ำแล้ว ไม่จำเป็นต้องดึง ส.ส.ไปเติมอีกโดยใช่เหตุ แค่อาจเป็นเพียงสร้างกระแสให้ดูดีมีความหมายเท่านั้นเอง

แต่ไม่ว่าข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดใน 2 วันแรกของศึกอภืปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายรัฐบาลและ "บิ๊กตู่" จองชัยชนะล่วงหน้าไว้แล้วหลายช่วงตัว

ลอยลำครับ ลอยลำ

ขอบคุณภาพ : สถานีวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา