"ช่อ" แฉ "รัฐบาลบิ๊กตู่" ส่อเอื้อคดีฉ้อโกง 1MDB (คลิป)

2020-02-23 16:55:31

"ช่อ" แฉ "รัฐบาลบิ๊กตู่"  ส่อเอื้อคดีฉ้อโกง 1MDB (คลิป)

Advertisement

"ช่อ" เปิดหลักฐาน แฉ "รัฐบาลประยุทธ์" ส่อเอื้อคดีฉ้อโกงระดับโลก 1MDB

วันที่ 23 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ เปิดเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภาที่ศูนย์ประสานงานคณะอนาคตใหม่ ฝั่งธนบุรี ในประเด็นความเกี่ยวข้องของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับคดี 1 MDB (1Malaysia Development Berhad) หรือกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของประเทศมาเลเซีย ที่มีการกล่าวหานายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียว่ามีส่วนพัวพัน และกำลังถูกดำเนินคดีหลายข้อหา หลังพบข้อมูลว่ากองทุนประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่อง จนมีหนี้สะสมกว่า 3.7 ล้านบาทภายใน 6 ปี โดยใช้ชื่อความสัมพันธ์นี้ว่า “พันธมิตรมืด”

น.ส.พรรณิการ์ ระบุว่า คณะอนาคตใหม่ พบหลักฐานที่เชื่อได้ว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กระทำการสืบเนื่องมาตั้งแต่ปี 2558-2563 ดังนี้ 1.ปกปิดข้อเท็จจริงกรณีอาชญากรรมการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากการรับรู้ของประชาชนทั้งมาเลเซีย ไทย และสังคมโลก 2.บิดผันกระบวนการยุติธรรม เอาคนบริสุทธิ์เข้าคุก ปล่อยให้อาชญากรข้ามชาติลอยนวล 3.ให้ที่พักพิง หลบซ่อนตัวแก้ผู้ต้องหาที่มีหมายแดงจากอินเตอร์โพล หรือตำรวจสากล ทั้งที่หลายประเทศต้องการตัว และ4.บ่อนทำลายความสัมพันธ์อันดีกับชาติพันธมิตรของไทย




จากการที่ตำรวจไทย จับกุมนายชาเบียร์ ฆุสโต ผู้เปิดโปงขบวนการทุจริต 1MDB โดยตั้งข้อหา พยายามกรรโชกทรัพย์ อ้างว่าได้รับการประสานจากเปโตรซาอุดี บริษัทเครือข่ายฟอกเงิน 1 MDB โดยผู้จัดการเปโตรซาอุดี เรียกเอาเงิน 83 ล้านบาทแลกกับการไม่เปิดเผยข้อมูลการค้าของบริษัท แต่ระหว่างการดำเนินคดีกับชาเบียร์ ฆุสโต ในไทยเกิดความผิดปกติหลายอย่าง เช่น กรณีตำรวจกองปราบปราบแถลงข่าวว่ามีตำรวจอังกฤษร่วมสอบสวนคดีนี้ แต่ข้อเท็จจริงกลับมีอดีตตำรวจที่เปโตรซาอุดีจ้างมาดูแลคดี และมีหลักฐานว่ามีการร่วมมือกับตำรวจไทย กดดันให้ชาเบียร์รับสารภาพความเท็จ ว่ากุเรื่องขึ้นมาเพื่อใส่ร้ายราจิบ และยังมีข้อมูลว่าFBI ถูกปฏิเสธคำขอเข้าสอบสวน ชาเบียร์ ฆุสโตถึง 3 ครั้ง นอกจากนี้ชาเบียร์ ฆุสโตไม่ได้ถูกส่งตัวไปรับโทษที่สวิตเซอร์แลนอย่างที่ควรจะเป็น ทั้งที่รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์มีการทวงถามมาหลายครั้ง และเมื่อเขาพ้นโทษยังถูกห้ามเข้าประเทศไทยถึง 100 ปี

นอกจากนี้ยังมีกรณีโลว เตี๊ยก โจว หรือโจโลคนสนิทของราจิบที่รัฐบาลสิงคโปร์ขอให้ตำรวจสากลออกหมายแดง ตั้งแต่ 7 ต.ค. 2559 แต่บันทึกการเดินทางเข้าออกของไทยกลับพบโจโลเดินทางเข้าออกถึง 5 ครั้ง โดยออกจากประเทศครั้งล่าสุดเมื่อ 13 พ.ค. 2561 หลังนาจิบแพ้การเลือกตั้ง ซึ่งไม่เคยมีหลักฐานว่ารัฐบาลไทยแจ้งต่อประเทศใดว่า โจโลเดินทางเข้าไทย ทำให้เกิดคำถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จงใจให้ที่พักพิงแก่ผู้ที่รัฐบาลเพื่อนบ้านต่องการตัวหรือไม่



รวมทั้งกรณี ตังเคงฉี ,จัสมินลู คนสนิทของโจ โล ที่ต่างใช้ไทยเป็นที่กบดาน โดยมี นาย “พ” นักธุรกิจไทยซึ่งเป็นคนสนิทของโจโล และเกี่ยวข้องกับโครงการของตำรวจให้การช่วยเหลือ

ทั้งนี้ข้อมูลทั้งหมด ทำให้เชื่อได้ว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ปกปิดข้อเท็จจริงของคดีปล้นเงินคนมาเลเซียครั้งใหญ่ ซึ่งตนหวังว่าข้อมูลที่ล้มระบอบราจิบมาแล้วนี้ จะทำให้ประเทศไทย ร่วมกันเรียกร้องความรับผิดชอบจากรัฐบาล และกอบกู้ศักดิ์ศรีประเทศไทยกลับคืนมาได้

สำหรับบรรยากาศการอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภาในวันนี้ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที มีประชาชนจำนวนมากให้ความสนใจมาร่วมรับฟัง รวมทั้งนาย วันมูหะมัดนอร์ มะทาหัวหน้าพรรคประชาชาติที่เดินทางมาร่วมฟังการอภิปรายนอกสภาในครั้งนี้ด้วย