สธ.เฝ้าระวัง โควิด-19 เพิ่มในประเทศอิตาลี-อิหร่าน ขณะที่ไทย มีผู้ป่วยที่รักษาหายจากการติดเชื้อกลับบ้านเพิ่ม 1 รายเป็นหญิงชาวจีน
วันที่ 23 ก.พ. ที่กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดแถลงข่าวสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดยมี นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.โอภาส การ์ยกวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไปกรมควบคุมโรค ร่วมแถลง
นพ.สุขุม กล่าวว่า มีผู้ป่วยที่รักษาหายจากการติดเชื้อโควิด-19 กลับบ้านเพิ่ม 1 ราย เป็นหญิงชาวจีน อายุ 54 ปี ทำให้มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรักษาในโรงพยาบาล 14 ราย กลับบ้านแล้ว 21 ราย เป็นคนไทย 4 ราย คนจีน 17 ราย รวมผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 35 ราย ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. – 22 ก.พ.2563 มี 1,355 ราย มี 284 ราย ที่เฝ้าระวังอาการอนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 1,071 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล
ส่วนสถานการณ์ผู้ติดเชื้อจากทั่วโลก 78,766 ราย เสียชีวิต 2,461 ราย โดยประเทศไทยยังคงเฝ้าระวังใน 14 ประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน ฮ่องกง มาเก๊า ใต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ซึ่งการเดินทางระหว่างประเทศนั้น องค์การอนามัยโลก ยังไม่มีคำแนะนำห้ามการเดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาด และยังไม่มีการกำหนดเป็นมาตรการที่จำเพาะสำหรับผู้เดินทางระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ในส่วนของประเทศไทย การควบคุมโรคของไทย ยังคงเข้มข้นในทุกด่านเข้าออกประเทศไทย แต่ต้องอาศัยความร่วมมือ จากประชาชนในการเฝ้าระวังตนเองและป้องกันตนเอง
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยังระบุว่า ถึง กรณีที่มีนักศึกษานักเรียนไทย บุคลากรของสถานศึกษา กลับจากการเดินทางไปต่างประเทศที่มีการระบาด และมีข้อกังวลเรื่องการติดเชื้อ โดยหลายสถานศึกษาให้ไป รพ.เพื่อขอตรวจหาเชื้อและขอใบรับรองแพทย์ก่อนไปโรงเรียนนั้น ไม่แนะนำให้ไปขอตรวจและขอใบรับรองแพทย์เนื่องจากการไปตรวจหาเชื้อในช่วงที่ไม่มีอาการ โอกาสพบเชื้อน้อยมาก หรือหากตรวจแล้วพบว่าเป็นลบก็ไม่ได้ยืนยันว่าจะไม่ป่วยจึงไม่มีความจำเป็นที่จะไปขอตรวจ ในขณะที่ไม่มีอาการ
แต่แนะนำสถานศึกษาให้อนุญาตนักศึกษา นักเรียนไทย บุคลากรของสถานศึกษา อยู่บ้านสังเกตอาการตนเอง 14 วัน หลีกเลี่ยงในการออกนอกบ้านไปยังพื้นที่สาธารณะ ชุมชนแออัด หากมีอาการตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขให้รีบไปพบแพทย์ สถานศึกษาควรจัดให้มีมาตรการคัดกรองนักเรียน นักศึกษา บุคลากรทุกวัน โดยวัดไข้และสังเกตอาการ ไอ มีน้ำมูก เพื่อจะแยกตัวไปยังสถานที่เตรียมไว้ได้ทันที
ขณะที่ มหาวิทยาลัยหัวเฉียว ได้ให้นักศึกษาที่เดินทางกลับมาจากจีนให้เฝ้าระวังอาการ โดยไม่ต้องเดินทางมามหาวิทยาลัยเป็นเวลา 14 วัน รวมทั้งมีระบบคัดกรองตรวจวัดไข้นักศึกษาทุกวัน จัดการเรียนการสอนออนไลน์ เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ เป็นอีกมาตรการป้องกันควบคุมโรค และเป็นต้นแบบของสถานศึกษาในการช่วยกันป้องกันควบคุมโรคได้ดี
อย่างไรก็ตาม ด้าน นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า ตอนนี้ได้มีการเฝ้าระวังจับตาประเทศอิตาลี และประเทศอิหร่าน หลังพบการระบาดในประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขจะเพิ่มประเทศที่เฝ้าระวัง มาจากเมื่อใดที่ประเทศเหล่านี้ มีการแพร่ระบาดของเชื้อในประเทศชัดเจนต่อเนื่อง และมีการประมาณการณ์ว่าผู้ติดเชื้อในประเทศค่อนข้างมาก ก็จะเฝ้าระวังผู้เดินทางประเทศเหล่านั้นอย่างไม่รีรอ