อนค. Be continued ไปต่อแต่ขาดทุน

2020-02-22 10:01:42

อนค. Be continued ไปต่อแต่ขาดทุน

Advertisement

คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญด้วยมติเสียงข้างมาก 7:2 ถือเป็นเด็ดขาด พรรคอนาคตใหม่ถูบยุบ กรรมการบริหารพรรคโดนตัดสิทธิรับสมัครเลือกตั้ง 10 ปี และส.ส.ต้องหาพรรคสังกัดใหม่ภายใน 60 วัน



แม้จะเป็นเพียงการยุติความห้าวของคนในพรรคโดยเฉพาะระดับแกนนำได้ในช่วงเวลาสั้นๆ เพราะคนเหล่านี้ ประกาศจะเดินหน้าต่อตั้งแต่ก่อนวันศาลรธน.จะตัดสิน และหลังจากโดนอาญาสิทธิ์ หัวโดนหั่นเรียบร้อยไม่กี่นาที ก็ประกาศตั้ง"คณะอนาคตใหม่"ขึ้นมาขับเคลื่อนและสานต่อเจตนารมณ์แทน






แต่เมื่อย้อนกลับไปวินิจพิเคราะห์คดียุบพรรคอย่างละเอียด ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นเรื่องเก็งข้อสอบผิด อ่านกฎหมายไม่แตก วางยุทธศาสตร์การสู้คดีความผิด และส่งผลให้พรรคขาดทุนชดเชย"ค่าโง่"





นักวิชาการดาวรุ่งมาแรงอย่าง ผศ.วันวิชิต บุญโปร่ง จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ชี้ว่า หากทีมกฎหมายพรรคอนาคตใหม่ ศึกษาเจตนารมณ์ของผู้ร่างตั้งแต่ต้น จะพบคำตอบสำคัญในเรื่องตั้งพรรคการเมือง คือเน้นความเป๋นอืสระ ปราศจากการครอบงำของบุคคลใดบุคคลหนึ่งอย่างชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มทุนที่มักเข้าไปมีบทบาทในการชี้นำพรรคในฐานะเจ้าของเงินทุน





ประเด็นนี้ สอดคล้องกับสาระหลักในพ.ร.ป.พรรคเมือง ปี 2560 ตั้งแต่เรื่องจำนวนผู้ก่อตั้งต้องร่วมกันจ่ายเงินเป็นทุนประเดิม จำนวนสมาชิกใน 1 และ 4 ปีแรก การเปิดสาขา การกำหนดให้สมาชิกจ่ายเงินบำรุงพรรค เงินทุนประเดิมพรรค 1 ล้านบาท ข้อห้ามรับเงินบริจาคหรือทรัพย์สินอื่นใดจากคนภายนอกเกินกว่าที่กำหนด ทั้งพรรคและผู้มีตำแหน่งในพรรคต้องไม่สัญญาว่าจะให้ตำแหน่งหรือผลประโยชน์อื่นใดจากผู้บริจาค เป็นการป้องกันการถูกครอบงำแทรกแซงทั้งผู้ให้และผู้รับ



ประด็นความเป็นอิสระ ปราศจากการครอบงำดังกล่าว ศาลรธน.ได้ระบุไว้หลายครั้งหลายหน ระหว่างอ่านคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่เมื่อ 21 ก.พ.





"แต่พรรคอนาคตใหม่กลับมีการกู้ยืมเงินจากหัวหน้าพรรคที่มีลักษณะผิดปกติ อัตราดอกเบี้ยไม่ปกติทางการค้า ความหมายทางกฎหมายเหมือนกับการให้ประโยชน์อื่นใด กรรมการบริหารพรรคก็ไม่ได้ท้วงติงหรือแจ้งในรายงานชี้แจงเรื่องนี้ต่อกกต. จึงชัดแจ้งว่า เข้าลักษณะบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือผลประโยขน์อื่นใดจากบุคคลเกินปีละ 10 ล้านบาทตามมาตรา 66 พ.ร.ป.พรรคการเมือง" นักวิชาการจากม.รังสิต กล่าว



เมื่อทีมกฎหมายตีโจทย์ไม่แตก จึงทำให้การยุทธศาสตร์สู้คดีแก้ข้อกล่าวหา และเก็งข้อสอบผิด ไปเก็งว่าศาลรธน.จะมีอำนาจวินิจฉัยหรือไม่ ซึ่งคำแถลงเบื้องต้นศาลรธน.ระบุชัดว่า มีอำนาจวินิจฉัยได้ ขณะที่พรรคอนาคตใหม่คิดว่าการใช้ช่องทางให้กู้ยืมเงินสามารถทำได้ แต่ศาลรธน.เห็นว่าเป็นลักษณะนิติกรรมอำพราง





ความผิดพลาดอีกอย่างของพรรคอนาคตใหม่ คือไม่ทำตามคำแนะนำของพันธมิตรพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่เสนอให้กรรมการบริหารพรรคที่เป็นส.ส.ให้ลาออกจากกรรมการบริหารพรรคก่อนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะจะสามารถเลื่อนผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับถัดๆไปขึ้นเป็นส.ส.ทดแทนได้ แต่เมื่อมั่นใจในแนวทางการต่อสู้คดีที่เตรียมการไว้มากเกินไป ทำให้สุดท้าย พรรคต้องเสียจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อไปฟรีๆถึง 11 คน



เท่ากับจำนวนส.ส.ของพรรคที่มีอยู่ 76 คนหลังขับส.ส.งูเห่าชุดแรก 4 คนออกจากไปแล้ว จะมีจำนวนส.ส.เหลือเพียง 65 คน



ยังไม่ลบจำนวนส.ส.ส่วนหนึ่ง ที่คาดหมายกันว่า จะไม่ไปต่อกับพรรคการเมืองใหม่ที่เตรียมเปิดเผยชื่อในสัปดาห์หน้า ทำให้มีแนวโน้มสูงว่า ในท้ายที่สุดจะมีส.ส.เหลือต่ำกว่า 50 คนก็เป็นได้



แม้จะได้ไปต่อ แต่บทเรียนครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก มิหนำซ้ำ ขาดทุนยับเยิน