รอง ผบช.น.เผยหลังสอบปากคำมือปืนยิงอดีตภรรยาดับคาคลินิก สารภาพทำไปเพราะความหึงหวง ตอนนี้สำนึกผิด ยอมรับเจตนายิงอดีตภรรยาเท่านั้น แต่กระสุนแฉลบไปถูกเพื่อน ด้านพี่สาวผู้ตายเผยตลอด 5 ปีที่ผ่านมาน้องสาวถูกทำร้ายร่างกายตัวช้ำไปทำงานตลอด เคยไปแจ้งความกักขังหน่วงเหนี่ยวมาแล้ว มิหนำซ้ำยังขู่ฆ่าพ่อแม่ แฉฝ่ายชายไม่เคยส่งเสียเลี้ยงดูลูก
จากกรณีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงภายในห้างสรรพสินค้า ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 1 คน เมื่อวันที่ 18 ก.พ.2563 เวลาประมาณ 15.00 น.
ต่อมาเมื่อเวลา 19 ก.พ. เวลาประมาณ 04.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท ร่วมกับ กก.สส.บก.น.1 ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายดนุสรณ์ หรือ เจ นุ่มเจริญ อายุ 28 ปี ที่อยู่ 127/107 หมู่ที่ 3 ต.นาดี อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร พร้อมด้วยของกลาง ปืนยี่ห้อ โคลท์ ขนาด .45 เครื่องกระสุน 32 นัด ซองบรรจุกระสุน 2 ซอง ซึ่งเป็นอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ ได้ที่ ต.ห้วยแม่เพียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ตามหมายจับ ศาลอาญา ที่ จ.154/2563 ลงวันที่ 18 ก.พ. 2563 โดยกล่าวหาว่า กระทำความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรและไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว,ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน จากการสอบถามเบื้องต้น ผู้ต้องหาดังกล่าวได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหา มายัง สน.พญาไท เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมโดยมี พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น.เดินทางมาร่วมสอบปากคำนายดนุสรณ์ด้วยตัวเอง
พล.ต.ต.สุคุณ กล่าวภายหลังการสอบปากคำนายดนุสรณ์ว่า ผู้ต้องหาให้การว่าที่ทำไปนั้นมีสาเหตุมาจากความหึงหวงอดีตภรรยาที่ต้องการหย่า แต่จะถูกยั่วยุจากเพื่อนหรือไม่นั้นยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ ขณะที่หลังก่อเหตุเจ้าตัวได้กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องพัก แล้วหนีไปที่ จ.เพชรบุรี โดยตำรวจพยายามให้แม่ผู้ก่อเหตุเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว ตอนนี้นายดนุสรณ์มีความสำนึกผิด ยอมรับว่ามีเจตนายิงอดีตภรรยาเท่านั้น แต่กระสุนอาจแฉลบไปถูกเพื่อนผู้ตาย อย่างไรก็ตาม สำหรับปืนที่ผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุพบว่าอาจเป็นปืนที่ถูกสวมทะเบียน ซึ่งกำลังตรวจสอบความถูกต้อง ทั้งนี้ผู้ต้องหาเป็นคนชอบปืนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และซื้อมาเก็บไว้หลายกระบอก
ด้านพี่สาวผู้ตายเดินทางมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ โดยระบุว่า ติดต่อกับน้องสาวครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงหลังปีใหม่ ทราบว่าต้องการหย่ากับฝ่ายชาย เพราะตลอดเวลา 5 ปีที่ผ่านมา น้องสาวถูกทำร้ายร่างกายจนตัวช้ำไปทำงานตลอด อีกทั้งฝ่ายชายไม่เคยส่งเสียเงินเลี้ยงดูลูกตัวเอง ซึ่งน้องสาวก็เคยไปแจ้งความเรื่องกักขังหน่วงเหนี่ยวมาแล้ว เพราะเคยหนีไปอยู่ จ.ชลบุรี แต่ นายดนุสรณ์ก็ยังโทรศัพท์มาขู่ฆ่าพ่อแม่ จากนี้ก็จะทำเอกสารขอรับศพที่ รพ.รามาธิบดี ก่อนนำร่างกลับไปทำพิธีกรรมทางศาสนาที่ จ.ตาก บ้านเกิดต่อไป