เกิดการยิงปะทะดุเดือด ทางภาคตะวันออกของยูเครน เมื่อวันอังคาร ทำให้ทหารกองทัพยูเครนเสียชีวิต 1 นาย และได้รับบาดเจ็บอีก 4 นาย นับเป็นการปะทะครั้งรุนแรงสุดในรอบหลายปี ระหว่างทหารกองทัพยูเครน กับกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดน ที่รัสเซียให้การสนับสนุน
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า เหตุนองเลือดถือเป็นการยั่วยุและหยามหมิ่น ที่อาจทำลายความพยายามแก้ไขความขัดแย้งครั้งใหม่
ส่วนแถลงการณ์ของกองทัพยูเครน กล่าวว่า ทหารยูเครนถูกระดมยิงด้วยอาวุธต้องห้าม ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งประกอบด้วย กระสุนปืนใหญ่ ปืนครก และเครื่องยิงจรวด เหตุเกิดใกล้หมู่บ้านในเมืองโนโวตอชคีฟกา และเมืองคริมสเก ในระยะห่างไม่ถึง 10 กิโลเมตร จาก 1 ใน 3 พื้นที่ถอนกำลังทหารตามข้อตกลงเมื่อปีที่แล้ว นายดมิตโทร ชาลยี โฆษกกองทัพยูเครน กล่าวว่า นี่เป็นการยิงปะทะครั้งรุนแรงสุดในรอบหลายปี
ทางด้านนายดมิตรี เพสคอฟ โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย แถลงที่กรุงมอสโก ในวันเดียวกันว่า การยิงปะทะทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ฝ่าย แต่มอสโกยังไม่ทราบรายละเอียด ว่าฝ่ายใดเป็นผู้เริ่มก่อเหตุ ขณะที่นายเลโอนิด ปาเชคนิค ผู้นำสาธารณรัฐประชาชนลูแกนสก์ ที่สถาปนาขึ้นเอง ทางภาคตะวันออกของยูเครน กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากการยั่วยุ และพฤติกรรมก้าวร้าวของกองทัพยูเครน