สธ.เผยรักษานักท่องเที่ยวจีนป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หายอีก 2 ราย เตรียมให้คนไทยจากอู่ฮั่นกลับบ้าน 19 ก.พ.นี้ การันตีแข็งแรง ไม่แพร่เชื้อ ขอทุกคนต้อนรับ โต้ข่าวเท็จอ้าง สสจ.บางจังหวัดสั่งห้ามตรวจเชื้อ
เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวความคืบหน้าสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ว่า สำหรับสถานการณ์ทั่วโลกมีผู้ป่วยยืนยัน 73,332 ราย เสียชีวิต 1,873 ราย โดยประเทศที่มีการระบาดในวงกว้าง อาทิ จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ รวมถึงเวียดนามก็กำลังมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ส่วนไทยมีผู้ป่วยสะสม 35 ราย รักษาหายกลับบ้านในวันที่ 18 ก.พ.เพิ่มอีก 2 คน คือนักท่องเที่ยวจีนที่รักษาอยู่ที่รพ.ราชวิถี 1 ราย และนักท่องเที่ยวจีนที่รักษาที่สถาบันโรคทรวงอก 1 ราย รวมรักษาหาย 17 ราย ยังเหลือรักษาในรพ. 18 ราย ส่วนคนที่อาการหนัก 2 รายยังใช้เครื่องช่วยหายใจ ในรายที่ใส่เครื่องช่วยพยุงปอดนั้นมีแนวโน้มกระเตื้องขึ้น ส่วนรายที่มีวัณโรคร่วมด้วยอาการยังทรงๆ สรุปทั้ง 2 คนยังอาการวิกฤตทีมแพทย์พยายามให้การดูแลเต็มที่ ขณะที่คนไทยซึ่งรับกลับมาจากอู่ฮั่นนั้น จะครบกำหนดเฝ้าระวังโรคในวันที่ 19 ก.พ.นี้ ทางทีมแพทย์และฐานทัพเรือสัตหีบอยู่ระหว่างเตรียมการให้กลับบ้านโดยจะมีการเก็บสิ่งส่งตรวจซ้ำอีกครั้งเย็นนี้ กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าการที่แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านนั้นแปลว่าเป็นคนที่แข็งแรง และเป็นคนที่ไม่น่าจะแพร่เชื้อโรคได้ ขอให้ทุกคนให้การต้อนรับคนไทยเหล่านี้กลับสู่บ้าน
นพ.ธนรักษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้โดยสารเรือเวสเทอร์ดัมที่เข้ามาประเทศไทยเมื่อวันที่ 14 ก.พ.ก่อนที่กรมควบคุมโรคสั่งห้ามเดินทางเข้ามาเด็ดขาด มี 95 คน เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว แต่ยังเหลือ 4 คน เป็นไทย 2 คน คนต่างชาติ 2 คน ผลตรวจแล็บเป็นลบทุกคน โดยคนต่างชาติกำลังจะออกนอกประเทศ ส่วนคนไทย 2 คนจะมีการติดตามใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประเทศไทยมีข้อห้ามชัดเจนเรื่องไม่อนุญาตคนที่โดยสารมากับเรือเวสเทอร์ดัม เข้าประเทศเด็ดขาดแล้ว ส่วนที่สื่อมาเลเซียรายงานว่ามีนักธุรกิจเดินทางเข้ามาไทยทางด่านสะเดาแล้วกลับไปป่วยติดเชื้อโควิด 19 นั้นตรวจสอบแล้วพบว่าเข้ามาพักที่เมืองไทยแค่ 1 คืน กลับไปแล้วก็ป่วยเลย ดังนั้นยืนยันว่าไม่ได้ติดเชื้อจากประเทศไทยแน่นอน น่าจะเป็นการติดเชื้อจากที่อื่นมาก่อนหน้านี้
นพ.ธนรักษ์ กล่าวด้วยว่า เมืองไทยมีความเสี่ยงที่จะเดินไปสัมผัสเชื้อไวรัสโควิด19ค่อนข้างต่ำ แต่ก็ขอให้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำอย่างเข้มข้น คือกลุ่มเสี่ยงอาทิ คนขับรถรับจ้าง รถแท็กซี่ คนขายของในร้านของฝากนักท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตัวตามความเหมาะสม หมั่นล้างมือ ให้สวมหน้ากากอนามัย หากหาไม่ได้ เวลาไอจามให้ใช้แขนปิด อย่าใช้มือปิดเพราะเสี่ยงที่จะเอามือไปจับอุปกรณ์อื่นๆ ในกรณีแท็กซี่ขอให้สวมหน้ากากอนามัยเสมอ ส่วนผู้ที่มีไข้ ไอ จาม เจ็บคอ ให้สวมหน้ากาก และถ้าหาไม่ได้ก็ไอ ก็ใช้แขนปิด อย่าไอใส่มือ และแยกตัว สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคก็เป็นไปตามมาตรฐานการควบคุมโรคของไทย กรณีไม่ป่วยคงไม่ถึงขั้นต้องแยกตัวจากผู้คน แต่ขอให้สวมหน้ากากอนามัย ไม่ต้องแยกสำรับอาหาร แต่ต้องใช้ช้อนกลาง และอย่าลืมเรื่องการล้างมือก่อนใช้ช้อนกลาง และล้างมือบ่อยๆ ด้วย
เมื่อถามว่าแม้ว่าการระบาดฯในไทยอยู่ในระยะที่ 2 แต่จำเป็นต้องมีคำแนะนำให้อีเวนท์ต่างๆ เลื่อนหรือระงับการจัดงานไปก่อนหรือไม่ นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีการระบาด แต่เราไม่สามารถพยากรณ์อนาคตได้ ถ้าเทียบกับการระบาดใหญ่ของไข้หวัด 2009 ในไทยจุดเริ่มต้นมาจากคอนเสิร์ตศิลปินเกาหลี ซึ่งมีคนไปอยู่รวมกันจำนวนมาก ดังนั้นตอนนี้หากอีเวนท์ไหนเลื่อนได้ก็ขอให้เลื่อนไปก่อน ถ้าเลื่อนไม่ได้ขอให้มีการคัดกรองคนมีไข้ ไอ เจ็บคอ ไม่ให้เข้างาน ส่วนที่เข้าไปร่วมงานได้ต้องสวมหน้ากากอนามัย และจัดหาเจลล้างมืออย่างเพียงพอ ทั้งนี้ อยากขอวิงวอนไปยังศูนย์การประชุมต่างๆ ให้ติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนให้เพียงพอ หรือควรมีเครื่องวัดอุณหภูมิชนิดมือถือ
เมื่อถามว่าขณะนี้มีการแชร์ข้อมูลว่านายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ในหลายจังหวัด สั่งไม่ให้มีการตรวจแล็บกลุ่มเสี่ยงเพื่อไม่ให้มีรายงานเคสเพิ่ม นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า โดยหลักการทั่วไป โรคนี้ระบาดเร็ว ถ้ามีการดำเนินการอย่างที่มีการแชร์ข้อมูลนั้นไม่เป็นผลดีกับจังหวัดนั้นๆ แต่กลับส่งผลร้าย การไม่ตรวจคือการที่ไม่สามารถลงไปควบคุมโรคได้เร็ว ถ้าจังหวัดใดมีคำสั่งแบบนี้ก็จะกลายเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคอย่างรวดเร็ว ส่วนตัวไม่คิดว่าจะมีใครที่คิดได้ขนาดนั้น คิดที่จะให้บ้านเมืองที่ตนเองดูแลอยู่ต้องกลายเป็นพื้นที่มีการระบาดของโรคแห่งแรกในประเทศไทย ดังนั้นสิ่งที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และทุกภาคส่วนพยายามทำคือการค้นหาผู้ป่วยให้เร็วที่สุด เพื่อยืดระยะเวลาการระบาดรุนแรงออกไปให้นานที่สุด ถ้าเราทำไม่ดีจะเจอปัญหาเหมือนบางประเทศที่เริ่มมีการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง เราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้นจริงๆ นี่คือปัญหาช้าง ใบบัวใบเดียวปิดไม่มิด
ด้าน นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า นโยบายกระทรวงสาธารณสุขตั้งแต่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ไม่มีข้อสั่งการห้ามตรวจแล็บ มีแต่สั่งให้ตรวจค้นหาด้วยมาตรฐานที่ดี ปรับเกณฑ์เฝ้าระวังเร็วขึ้นเพื่อให้ตรวจจับได้เร็วและกว้างขวาง สำหรับผู้ป่วยต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ จ.ศรีสะเกษ ผลตรวจแล็บล่าสุด ยืนยันเป็นลบ ไม่ได้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นเพียงไข้หวัดชนิดหนึ่งเท่านั้น