“ทบ.- กรมธนารักษ์" เอ็มโอยูโครงการการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจ ทบ. (คลิป)

2020-02-17 23:50:12

“ทบ.- กรมธนารักษ์" เอ็มโอยูโครงการการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจ ทบ. (คลิป)

Advertisement

“ทบ.- กรมธนารักษ์" ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง "โครงการการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจของกองทัพบก (ทบ.)

เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ร่วมกับกรมธนารักษ์ โดย นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง "โครงการการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจของกองทัพบก (ทบ.)" การลงนามบันทึกข้อตกลงในวันนี้ เพื่อให้การใช้ที่ราชพัสดุของกองทัพบก (ที่ดิน อาคาร และสิ่งปลูกสร้าง) ในการจัดสวัสดิการภายในกองทัพบก เป็นไปตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง การจัดสวัสดิการภายในกองทัพบก ดำเนินการภายใต้กรอบระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการ พ.ศ. 2547 เช่น สถานีบริการน้ำมัน ร้านค้า ตลาดนัด กิจการสโมสร สนามมวย สนามกอล์ฟ สนามม้า และสถานพักฟื้นพักผ่อนกองทัพบก 

เนื่องจากที่ผ่านมา แม้กองทัพบก จะเน้นให้บริการ หรือจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพและราคาถูกกับกำลังพล กองทัพบกและครอบครัว ส่งผลให้บุคคลทั่วไปให้ความสนใจมาใช้บริการและซื้อสินค้าในกิจการสวัสดิการของกองทัพบกด้วยจำนวนมาก และเมื่อผลประกอบการดี จึงอาจทำให้สินค้าและบริการมีราคาถูกลง

ดังนั้น ในกรณีที่บุคคลภายนอกทั่วไปมาใช้บริการมากกว่าสมาชิก (กำลังพลของกองทัพบกและครอบครัว) จึงให้ดำเนินการในรูปแบบการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจ ซึ่งต้องขออนุญาตเช่าที่ราชพัสดุ จากกรมธนารักษ์ ซึ่งรายได้ที่เกิดขึ้นจากการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจ จะถูกนำส่งเป็นค่าเช่าและค่าธรรมเนียมให้แก่กรมธนารักษ์ส่วนหนึ่งตามบันทึกข้อตกลง ส่วนที่เหลือจะนำส่งเข้ากองทุนสวัสดิการกองทัพบก เพื่อนำมาจัดสวัสดิการให้แก่กำลังพลกองทัพบกและครอบครัว แบ่งเป็น 2 ลักษณะ ดังนี้ 1. การจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจ กรณีปกติทั่วไป เช่นสถานีบริการน้ำมัน ร้านค้าตลาดนัด เป็นต้น ให้เรียกเก็บค่าเช่า ค่าธรรมเนียม ตามอัตราที่กำหนดตามระเบียบและคำสั่งที่ใช้บังคับ ณ เวลานั้น 2. การจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจ กรณีพิเศษ ได้แก่ สนามมวย สนามกอล์ฟ สนามม้า และสถานพักฟื้นพักผ่อนให้เรียกเก็บค่าเช่าค่าธรรมเนียมตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง 


ทั้งนี้ ผบ.ทบ. ได้งดการแถลงข่าว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้ลงกำหนดการไว้ว่าจะแถลงข่าวด้วยตนเอง แต่มอบหมายให้ พล.อ.ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ เสนาธิการทหารบก เป็นผู้แถลงร่วมกับนายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง

โดยพล.อ.ธีรวัฒน์ กล่าวว่า การลงนามครั้งนี้ เพื่อให้กองทัพบกเกิดความถูกต้อง โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ สำหรับสัดส่วนการแบ่งรายได้ เป็นไปตามกฎหมายของกรมธนารักษ์ แต่ละธุรกิจมีสัดส่วนไม่เท่ากัน และต้องประเมินตามมูลค่าที่ดินประกอบด้วย โดยจากการสำรวจเบื้องต้น มีพื้นที่ 1 ล้านไร่ที่จะต้องเข้ารับการตรวจสอบจากกรมธนารักษ์ ในจำนวนนี้ มีประมาณ 7 แสนไร่ที่ถูกประชาชนบุกรุก การลงนามครั้งนี้ จึงครอบคลุมถึงการมอบอำนาจให้กรมธนารักษ์เข้าไปจัดสรรที่หลวง ด้วยการทำสัญญาเช่าระยะไม่เกิน 3 ปี 

อย่างไรก็ตาม สวัสดิการในเชิงธุรกิจของกองทัพบก เบื้องต้นที่จะดำเนินการมีธุรกิจ 40 กว่าแห่ง ส่วนจะเป็นธุรกิจเชิงพาณิชย์หรือไม่ ต้องตรวจสอบก่อนว่ามีประชาชนเข้าใช้บริการเกิน 50 เปอร์เซ็นต์หรือไม่ เพราะมีบางธุรกิจ เช่น ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ถือว่า ไม่ใช่การจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจ แต่เป็นการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุ ซี่งกองทัพไม่ได้ส่วนแบ่งรายได้ทางตรง แต่กำลังพลจะได้ประโยชน์จากส่วนลดราคาสินค้า 5 เปอร์เซ็นต์