สรุปสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ประจำวันจันทร์ที่ 17 ก.พ.
-มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มขึ้นมากกว่า 71,000 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,775 ราย ซึ่งรวมทั้ง 5 รายนอกจีนแผ่นดินใหญ่ คือฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และฝรั่งเศส
-รัฐบาลสหรัฐส่งเครื่องบินเช่าเหมาลำ 2 ลำ มาอพยพชาวอเมริกันมากกว่า 300 คน ออกจากเรือสำราญ "ไดอามอนด์ ปรินเซส" ที่ถูกกักอยู่ในญี่ปุ่นมานานหลายสัปดาห์ แต่พวกเขาก็ต้องถูกกักบริเวณอีก 14 วันเมื่อเดินทางกลับถึงสหรัฐเพื่อเฝ้าดูอาการที่ฐานทัพแห่งหนึ่งในสองแห่ง การเคลื่อนไหวดังกล่าว จุดชนวนให้เกิดความไม่พอใจจากผู้โดยสารหลายคน ซึ่งมองว่ามันทำให้พวกเขากลับไปใช้ชีวิตตามปกติช้าออกไปอีก คารีย์ แมนซิคาลโก ผู้โดยสารคนหนึ่ง กล่าวกับซีเอ็นเอ็นว่า มันไม่ได้ต่างจากการติดคุกเลย สำหรับความผิดที่เธอไม่ได้ทำ พวกเขากำลังจับพวกเราเป็นตัวประกันโดยไร้เหตุผลสิ้นดี
ขณะที่ แคนาดา, อิตาลี และฮ่องกง ก็เตรียมส่งเที่ยวบินมารับพลเมืองของตนเองเช่นกัน
-ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 2 ราย ซึ่งคนหนึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขที่ขึ้นไปปฏิบัติหน้าที่บนเรือสำราญไดอามอนด์ ปรินเซส ส่วนอีกคนเป็นพยาบางวัย 40 ปี ซึ่งรักษาหญิงวัย 80 ปีที่ติดเชื้อไวรัสในจังหวัดกานากาวะ และในเวลาต่อมา หญิงวัย 80 ปีเสียชีวิต กลายเป็นคนแรกในญี่ปุ่นที่เสียชีวิตจากไวรัสมรณะ
-ขณะนี้ ญี่ปุ่นยืนยันผู้ติดเชื้อไวร้สโควิด-19 แล้ว 414 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ มี 357 ราย เกี่ยวข้องกับเรือสำราญไดอามอนด์ ปรินเซส และ 57 รายไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรือ
-ผู้เสียชีวิตรายแรกในยุโรป เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งตรวจพบติดเชื้อไวรัสแล้วเสียชีวิตในฝรั่งเศส จากการยืนยันของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขฝรั่งเศสในวันเสาร์ที่ผ่านมา
-มาเลเซียจะไม่อนุญาตให้ใครก็ตามที่อยู่บนเรือสำราญเอ็มเอส เวสเตอร์ดัม เข้าประเทศ หลังจากพบผู้โดยสารของเรือลำนี้ เดินทางเข้ามาเลเซียและพบติดเชื้อไวรัสร้าย เป็นหญิงชาวอเมริกันวัย 83 ปี และสามีของเธอก็แสดงอาการ เมื่อพวกเขาเดินทางถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์ หลังบินจากกัมพูชา แต่สามีของเธอ ผลตรวจเป็นลบ ไม่พบว่าติดเชื้อ จากการแถลงของกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย
-กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ แถลงว่า รับทราบรายงานหญิงวัย 83 ปีชาวอเมริกัน ติดเชื้อในมาเลเซีย แต่โฆษกกระทรวงต่างประเทศ บอกว่า ยังไม่ชัดเจนว่า ติดเชื้อจากที่ไหนและติดอย่างไร
-คริสตาลีนา จอร์จีวา ผู้อำนวยการใหญ่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ กล่าวต่อที่ประชุมโกลบอล วีเมนส ฟอรั่ม ในดูใบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ อาจทำลายการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ แต่การฟื้นกลับมาขยายตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจ จะเกิดขึ้นหลังจากนั้น
ในการรายงานความคืบหน้าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกเดือนมกราคมที่ผ่านมา ไอเอ็มเอฟปรับลดคาดการณ์การการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ปี 2563 ลงร้อยละ 0.1 เหลืออยู่ที่ร้อยละ 3.3 หลังจากปีก่อนหน้าเหลืออยู่ที่ร้อยละ 2.9 ต่ำสุดในรอบ 10 ปี
จอร์จีวา กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัส แต่ก็ยอมรับว่า หลายภาคส่วน เช่นการท่องเที่ยวและการขนส่ง ได้รับผลกระทบอย่างหนักไปแล้ว