ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ คุมตัวแก๊งอุ้มบุญ 9 ราย สอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนนำตัวฝากขังที่ศาลอาญารัชดาพร้อมคัดค้านการประกันตัว
เมื่อวันที่ 14 ก.พ. พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ผบก.ปคม.) เปิดเผยว่า ผลการหารือในที่ประชุม เชื่อว่าจะสามารถเอาผิดกับผู้ต้องหาแก๊งอุ้มบุญทั้ง 9 คนได้ทุกคน แม้ว่าชาวต่างชาติ 3 คน จะให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่ามาทำหลอดแก้วก็ตาม ขณะที่ผลการสอบสวนพยาน ทำให้มีหลักฐานเพียงพอจะออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 8 คน โดย 2 คน เป็นคนจีนที่พาแม่อุ้มบุญไปคลอดที่ต่างประเทศ ส่วนอีก 6 คน เป็นคนไทยที่ทำหน้าที่เป็นนายหน้า และเป็นคนดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องการเดินทาง ส่วนการตรวจสอบในขณะนี้ ยังไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐให้การช่วยเหลือ เรื่องการนำพ่อแม่ชาวจีนมาจดทะเบียนเป็นพ่อแม่เด็ก เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ในการพาเดินทางไปต่างประเทศ
พล.ต.ต.วรวัฒน์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่ต้องมีการขยายผลสอบสวนเพิ่มเติม จะมีการประสานกับกระทรวงสาธารณสุข ในหลายประเด็น ทั้งการตรวจสอบยาและเวชภัณฑ์ที่พบในบ้านผู้ต้องหา หรือเอกสารการรับฝากครรภ์แม่อุ้มบุญ รวมถึงข้อมูลการเข้าตรวจสถานพยาบาลต้องสงสัยที่ สบส. มีข้อมูลสถานพยาบาล 9 แห่ง ซึ่งจะมีการนัดหารืออีกครั้งในช่วงบ่ายวันที่ 17 ก.พ.นี้ นอกจากนี้จะขยายผลตรวจสอบเรื่องการเปิดบริษัทบังหน้า ว่าเป็นการทำธุรกิจถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ สำหรับแม่อุ้มบุญทั้ง 7 คน ที่ช่วยเหลือได้ จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับใคร และจะส่งตัวให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รับตัวไปอยู่ในการดูแล พร้อมทั้งตรวจสภาพร่างกายเรื่องการตั้งครรภ์ โดยยอมรับว่า มีแม่อุ้มบุญส่วนหนึ่งที่ต้องถูกดำเนินคดี หลังพบว่าได้ผันตัวไปเป็นนายหน้าชักชวนคนอื่นกระทำผิดด้วย ส่วนแม่อุ้มบุญบางส่วน จะพิจารณากันตัวไว้เป็นพยานในคดีนี้ หากพบว่าให้การเป็นประโยชน์ในการขยายผลไปสู่การจับกุมตัวการสำคัญได้ สำหรับผู้ต้องหารายที่ 10 ยืนยันว่า มีการจับกุมไปตั้งแต่ 30 เม.ย.ปีที่แล้ว ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการควบคุมตัวในต่างประเทศ
ต่อมาเวลา 14.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 9 รายจาก สน.ทุ่งสองห้องไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ก่อนจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดาโดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว และหลังจากนี้ก็จะพิจารณาความผิดอื่นๆ เพิ่มเติม เช่นความผิดเกี่ยวกับยา และเวชภัณฑ์ และความผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าว