"แอฟ ทักษอร" ไม่สนใจดราม่า "สงกรานต์" โพสต์แขวะ ยัน ชีวิตมี 2 อย่างที่ต้องโฟกัส เรื่องอื่นๆ ที่ไม่ส่งเสริมจะปล่อยเกียร์ว่าง ...
กลายเป็นประเด็นดราม่าหลัง "สงกรานต์ เตชะณรงค์" โพสต์คลิปสอนน้องปีใหม่ว่า "ติวเข้มให้เจ๊ปีก่อน เดี๋ยวหาว่าไม่มีส่วนร่วม" งานนี้หลายคนมองว่าเป็นการแขวะสาว "แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ" งานนี้พอเจอสาวแอฟเลยสอบถามถึงเรื่องนี้ พร้อมถามถึงผลงานละครที่ร่วมงานกับ "ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร" ได้ความว่า
มีแฟนคลับบ้านคู่มาแล้ว แฟนๆ เริ่มจิ้นตั้งแต่ละครยังไม่ออนแอร์ ?
สำหรับแฟนคลับแอฟจะเจอหรือไม่เจอก็เป็นการซัพพอร์ตซึ่งกันและกันมาตลอดค่ะ สำหรับเรื่องคู่จิ้นสมัยก่อนก็มีนะ ตอนที่เคยเล่น (หัวเราะ) มันเป็นเรื่องธรรมดาที่พระเอกนางเอกที่เล่นด้วยกันก็ควรจะต้องมีเคมีบางอย่างที่คนดูแล้วมีความสุขแล้วอยากเห็นทั้งคู่มีความสุข มันเป็นเรื่องปกติมากๆ สำหรับแอฟ ถ้าคนดูๆ แล้วไม่เชียร์อันนั้นสิแปลก ต้องขอบคุณทุกการสนับสนุนถึงแม้จะยังไม่เห็นผลงานก็เทใจให้แล้ว ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ รับรองจะไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ
เข้าฉากกับต่อแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ?
ต้องบอกเลยค่ะว่าต่อเป็นคนที่น่ารักมาก มีพื้นฐานการเป็นนักแสดงที่ดีมีวินัยมาก เรื่องนี้ต่อเขาเต็มร้อยอยู่แล้ว นอกจากนั้นสิ่งที่เราไม่ได้คาดคิดคือ บางทีเราก็หายจากการแสดงไปนาน อาจจะต้องมีช่วงเคาะสนิมบ้าง ต่อก็ช่วยเคาะอยู่
เห็นว่าน้องปีใหม่วิดีโอคอลโทรตามตลอด ?
ตามตลอดค่ะ หลังเลิกเรียนก็คือตามยิกเลย เมื่ออาทิตย์ที่แล้ววันหยุดมีโอกาสพาเขามากองละคร ว่าเวลาแม่หายไป หายไปที่ไหนยังไง เขาจะได้หายห่วง ตอนนี้ก็เลยไม่กังวล วันนั้นตอนที่ปีใหม่มากองไม่เจอพี่ต่อ แต่เจอทุกคนในกองแล้ว
ถามถึงเรื่องที่น้องปีใหม่งอนคุณแม่ร้องไห้เลย ?
ตอนแรกคุณแม่ไม่รู้ตัวเลย ตอนนี้ดีกันแล้ว ก็สัญญากันว่าจะไม่ไปดูเขาซ้อมบัลเล่ต์ เพราะเขาย้ำนักย้ำหนาว่าคือความลับ เขาอยากจะทำให้คุณแม่ภูมิใจในวันโชว์จริง อาทิตย์แรกแม่ก็ไม่ไปดู อาทิตย์ที่สองที่ไปดูเพราะหนึ่งคิดว่าไม่ได้ซีเรียสการที่เด็กห้าขวบจะบอกว่ามันเป็นความลับ แล้วคือมีผู้ปกครองไปดูกันหมดเลย ปีใหม่จะเป็นคนเดียวที่แม่ไม่อยู่ได้ยังไง ก็กลัวลูกจะใจเสียเวลามองลงมาจากเวทีแล้วไม่เจอ คิดว่าเดี๋ยวเห็นหน้าแม่ก็ดีใจเองแหละ เปล่าค่ะ คือเขายึดเอาคำที่เขาสัญญาไว้กับแม่มากกว่าที่จะเห็นหน้าแม่ เขาก็เลยร้องไห้ด้วยความผิดหวัง ถามว่าตกใจไหม ตกใจมากค่ะ หน้าเสีย ใจหายไปถึงตาตุ่ม ไม่ได้เป็นอย่างนี้นานแล้ว รู้สึกว่าเราผิดจริงเราก็บอกลูกก็ขอโทษลูก เราก็ยอมรับผิดเต็มประตูค่ะ
นานไหมกว่าน้องปีใหม่จะหายงอน ?
ง้อยังไงหรอ ก็ให้ทุกคนช่วย แล้วทุกคนน่ารักมาก อย่างผู้พันเบิร์ดส่งข้อความมาเลยว่าควรจะทำยังไง พี่เบิร์ดเป็นแฟมิลี่แมนมาก เขาจะมีวิธีพูดกับลูก เขาก็ไม่งอนหลายวัน เขาเป็นเด็กค่อนข้างเข้าใจ แต่ก็ไม่ใช่ภายในวันนั้น
ทำให้ครั้งต่อไปเวลาสัญญาอะไรกับลูกต้องจริงจังกว่านี้ไหม ?
จริงๆ แล้วเราจำได้ ไม่ได้เป็นคนขี้ลืม แต่เราแค่ชั่งน้ำหนักในใจแล้วว่าระหว่างสัญญากับการที่เขามองแล้วไม่เห็นหน้าแม่ มั่นใจในตัวเองคิดว่าเขาจะต้องดีใจเวลาเห็นหน้าแม่ ปรากฏว่าไม่เลย เขารู้สึกว่าไม่เห็นหน้าแม่ตอนนั้นก็ไม่เป็นไร เราไม่ได้คิดว่าลูกเราจะโตแล้ว
ถือเป็นบทเรียนสำหรับคนเป็นแม่ไหม ?
ใช่ค่ะ ว่าถึงแม้เห็นเขาตัวเล็กๆ แบบนั้น เราก็ต้องฟังและเชื่อใจเขา คือตลอดเวลาเราฟังค่ะ แอฟเป็นคนฟังลูกตลอดแต่ว่าบางทีเราไม่ได้เชื่อใจว่าเขาจะไม่ใจเสียจริงๆ ใช่ไหม แต่จริงๆ คือเขาทำได้ ปีใหม่เขาก็โตขึ้น
น้องปีใหม่ได้พรีเซนเตอร์งานใหญ่ด้วย ?
แอฟดีใจที่น้องได้ทำงานนี้ แอฟไม่ได้มองว่าเป็นงานใหญ่หรือได้เงินมากเงินน้อย แต่ดีใจที่เขาได้งานที่เหมาะกับเขา อย่างในโฆษณาก็เป็นไลฟ์สไตล์ของเด็ก เราอยากให้เขาได้ทำอะไรเป็นตัวของตัวเอง มันเป็นเรื่องที่เขาชอบ ร้องเพลง เต้น เล่นกับเพื่อน ได้งานที่ตรงกับคาแรกเตอร์หรือเหมาะกับเขา เป็นเรื่องที่ดีไม่อยากไปฝืนให้ยืนขายของ ไม่ใช่ตัวเขา
ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?
แอคติ้งไม่ได้เตรียม เด็กมีธรรมชาติในการแสดงออกมาอยู่แล้ว เผลอๆ มีความเป็นธรรมชาติมากกว่าเรา ไม่รู้จะสอนอะไรเค้า แต่ก่อนไปทำงานก็มีการเตรียมตัวเยอะมาก ในหนังมีต้องร้องเพลง ต้องเต้น ก็ไปเรียนเป็นเรื่องเป็นราว เป็นการไปเรียนเต้นแบบจริงจังเป็นทางการครั้งแรก ลูกมีความสุขตอนที่ทำ และเขาดีใจที่ได้ไปเรียนเต้นปกติแม่ไม่ได้ให้ไปเรียน เขามีความสุขในทุกขั้นตอน พูดง่ายมาก ปกติจะไม่ชอบนอนกลางวัน แต่วันนั้นบอกว่าถ้าไม่นอนตอนบ่ายจะไม่ได้ถ่ายต่อนะ พอกินข้าวเสร็จเขาก็รีบนอนเลย
ปลื้มมากแค่ไหน ?
ก็เปิดให้เค้าดูในยูทูบ แค่ปีใหม่คนเดียวก็ร้อยกว่าวิวแล้วค่ะ (หัวเราะ)
มีงานติดต่อเข้ามาเยอะไหม ?
มีติดต่อมาเรื่อย แต่ก็ดูตามความเหมาะสม มันเข้ากับน้องมั้ย ถ้ามันฝืนเดี๋ยวแม่ทำเอง
น้องมีบอกไหมว่าอยากทำอันนี้ ?
เขาไม่ได้บอกว่าอยากทำอีก แต่เวลามีติดต่อมาก็จะบอกเขา ถามเขาว่าอยากทำไหม เขาก็จะบอกว่า
กลายเป็นซุปตาร์ตัวน้อย ?
เพิ่งเริ่มได้งานเดียวเองค่ะ (หัวเราะ)
ถามเรื่องที่สงกรานต์โพสต์ถึงลูกสาว หลายคนมองว่าเหมือนแขวะเรา รู้สึกยังไงบ้าง เราได้เห็นแคปชั่นบ้างไหม ?
ไม่เห็นค่ะ ตอนช่วงทำแอฟเริ่มทำงานจริงจัง ละครถ่ายมาประมาณ 10 คิว รู้สึกว่าแอฟต้องปัดฝุ่นเยอะ ต้องทุ่มเทพลังและสมาธิทั้งหมดมาที่งานและลูก ตอนนี้สองอย่าง จะเอาอย่างใดอย่างหนึ่งนำมันก็ยาก สำหรับแอฟมันสำคัญมากๆในชีวิตแอฟช่วงนี้ทั้ง 2 อย่าง อะไรที่มันไม่ได้ส่งเสริมในตอนนี้แอฟก็จะพยายามไม่โฟกัส ถามว่ามีคนมาบอกบ้างไหม คือคนใกล้ตัวจริงๆ ไม่ค่อยมีค่ะ เขาอาจจะรู้ว่าตอนนี้แอฟกำลังเครียดอยู่ เรามีสิ่งที่เราต้องโฟกัสอยู่
คือเราก็ไม่ได้รับรู้เรื่องที่คนอื่นมอง ?
ตอนนี้ไม่ค่ะ ตอนนี้แค่เรื่องละครแอฟก็เครียดอยู่แล้ว บวกกับเรื่องลูกก็เครียด ต้องยอมรับเลยเพราะว่ามันเป็นช่วงที่เพิ่งเปลี่ยนแปลง ตอนนี้ก็ค่อนข้างลงตัวแล้วค่ะว่าลูกเข้าใจว่าเรามาทำอะไรที่ไหนอยู่กับใคร เขาก็ไม่รู้สึกว่าเมื่อไหร่คุณแม่จะกลับบ้าน ไม่แล้ว ตอนนี้เขาก็เข้าใจแล้ว เขาจะเปลี่ยนแนวเป็นคุณแม่ทำอะไรวันนี้คุณแม่ถ่ายฉากอะไร วันนี้คุณแม่ขับเครื่องบินรึเปล่า ก็จะไปทางด้านนั้นไปทำให้เราเบาใจขึ้นเยอะว่าการที่เราออกมาทำงานไม่ได้ส่งผลกระทบกับลูก
เวลาจะพาน้องปีใหม่ไปเจอครอบครัวทางย่ายังเหมือนเดิมไหม ?
ก็ปกติค่ะ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง อย่างที่บอกที่แอฟเครียดเรื่องการทำงานและลูก เพราะเราไม่อยากทำอะไรเกี่ยวกับลูกให้มันเปลี่ยนแปลงเลย เราจะไม่ให้เกิดผลกระทบใดๆกับลูกเลย เราต้องมีเวลาให้ลูกเท่าเดิมเหมือนเดิม
