วงนี้ไม่กินเส้นกันจริงหรือ ? อยู่ๆ ก็วงแตกแยกทางกันเดินเสียอย่างนั้น แฟนๆ ที่ติดตามงงมาก กับ "บาซู" นักร้องไทยกรุ๊ปที่โด่งดังในยุค 90 ใครๆ ต่างก็รู้จักพวกเขาเป็นอย่างดี ...
เป็นปรากฏการณ์อีกครั้งของวงการบันเทิงเมืองไทย เมื่อนักร้องวงดังสุดฮิตในอดีตกลับมารวมตัวกันอีกครั้งในรอบ 10 ปี สำหรับ "เด็บบี้-โจอี้-กำปั้น" วงบาซู ที่ล่าสุดทั้ง 3 คน มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บ Show พร้อมเผยข้อสงสัยทำไมวงแตก แตกคอกันจริงหรือเปล่า ?
เรียกว่าเป็นการรวมตัวกันบนหน้าจอทีวีในรอบ 10 ปี ?
กำปั้น : ใช่ครับ ที่พร้อมหน้า พร้อมตา
บาซูสมัยก่อนโด่งดังขนาดไหน ?
กำปั้น : 20 ปีที่แล้วมันเป็นช่วงเฟื่องฟูของยุคเพลงด้วย มันก็ประสบความสำเร็จเกือบทุกท่านที่ออกมาในช่วงนั้น
ตอนนั้นดังมากจนวันหนึ่งคุณตัดสินใจแยกกัน แล้วก็ยุบวง วันนั้นเกิดอะไรขึ้น ?
กำปั้น : มันเกิดจากการที่เราทำงานหนักเหมือนกัน 5 ปี
โจอี้ : วันหนึ่งไม่ได้พักมั้ง
กำปั้น : เราเคยนับปีหนึ่งเรามีคอนเสิร์ต 300 กว่าคอนเสิร์ต
เด็บบี้ : เราทำงานจนรู้สึกว่าเราอิ่มตัวแล้ว ก็เลยขอพี่ๆ ไปเรียนดีกว่า
แก้ข่าวหน่อยว่าตอนที่ยุบไป จริงๆ ไม่ได้ตีกัน ?
กำปั้น : ไม่ได้ทะเลาะ เราคุยกัน ตอนที่เข้ามาทำบาซูกัน ตอนนั้นอายุ 16 ยังไม่จบไฮสคูล แล้วพอทำได้สักพักงานเยอะมาก เด็บก็ต้องหยุดเรียน ปัญหาหลักๆ คือพวกเราทำงานกันเยอะ แล้วรู้สึกว่า 5 ปี พวกเราอิ่มตัวแล้ว แล้วคุณแม่ของเด็บบี้ก็อยากให้น้องไปต่อ เพราะน้องยังไม่จบไฮสคูล
เด็บบี้ : ใช่ๆ คิดว่าถ้าไม่เรียนตอนนั้นน่าจะไม่มีโอกาสแล้ว
ปัจจัยหลักๆ ก็คือเด็บบี้บินไปเรียนต่อเมืองนอก ?
เด็บบี้ : ใช่
ไปเรียนไม่เท่าไหร่ แต่เรียนจบปุ๊บไม่กลับมาทำงาน หลงระเริงไปมีสามี มีลูก ?
เด็บบี้ : ไม่จริงๆ อันนี้หนูขอแก้ข่าว หนูพอเรียนจบเสร์จก็กลับมาก่อน แล้วมาทำงานสักพัก แล้วเจอฝรั่งที่นี่เลยหนีตามผู้ชายไป แล้วตอนนี้ก็มีลูก 1 คน และย้ายมาอยู่เมืองไทยแล้ว
ระหว่างที่เด็บบี้อยู่ที่นู่น แล้วเพื่อนๆ เขาทำอะไรกัน ?
กำปั้น : ก็ต่างคนก็ต่างแยกย้าย อย่างเด็บบี้ก็ต้องไปเรียน อย่างผมก็หมดวัยเรียน แล้วก็ลุยงานวงการบันเทิงอย่างที่เราอยากทำ มีโอกาสได้เข้ามาเราก็ทำ หลังๆ มีอยู่ช่วงหนึ่งเทรนด์ถ่ายแบบมา เราก็ลองดู แล้วก็ยาวเลย
ทำไมตัดสินใจถ่ายในมุมที่เซ็กซี่ขนาดนั้น ?
กำปั้น : จริงๆ คนที่ไม่ได้ดู ฟังจากการโปรโมตอาจจะคิดว่าเป็นภาพนู้ด แต่ถ้าไปเปิดดูก็เป็นภาพแฟชั่นทั่วไป เป็นกางเกงว่ายน้ำ
กระแสตอนนั้นเป็นยังไง ?
กำปั้น : ตอนนั้นอาจจะไม่เหมือนตอนนี้ ใครถ่ายอาจจะดัง มันมีคนถ่ายน้อย มันก็เลยมีกระแสทั้งดีและไม่ดี
แต่อยู่ๆ ก็ตัดสินใจออกจากวงการตามเด็บบี้ไปอีก เกิดอะไร ?
กำปั้น : คือตอนนั้น อย่างที่บอกว่ามันมีทั้งดีและไม่ดี เราก็โอเคได้มีงานต่อ กระแสไม่ดีมันเยอะมาก คนที่ถ่ายเซ็กซี่คนอาจจะมองว่าแรง เดือดร้อนเรื่องเงิน มันก็จะมีข่าวไม่ดี ข่าวอะไรอย่างนี้มาจนทำให้เรารู้สึกว่าเรารับไม่ไหว เรารู้สึกว่าเรารอยู่แล้วอึดอัด
แล้วออกไปทำอะไร ?
กำปั้น : ถึงเวลาเที่ยว พักผ่อน ก็ไปหาเด็บบี้ก่อน ผมก็ไปทำงาน ทัวร์คอนเสิร์ต ร้องเพลงตามร้านอาหาร พอมันไปแล้วรู้สึกสนุก ได้เที่ยว ได้เงินด้วยเล็กๆ น้อยๆ ได้พักผ่อนไปในตัว ทีนี้ยาวเลย
ด้านพี่โจอี้ พอภรรยาเสีย มันมีเรื่องมีราว มันเกิดอะไรขึ้น ?
โจอี้ : มันเยอะอ่ะ บอกไม่ได้ เอาเป็นว่ามันเป็นมรสุมชีวิต มันผ่านไปแล้วกัน
กำปั้น : ตอนแรกเด็บบี้อยู่อเมริกา จริงๆ ถ้ารู้จักพี่โจ บุหรี่แกยังไม่ดูดเลย แล้วเรื่องยาเป็นอะไรที่ห่างมาก ช่วงนั้นไม่ค่อยได้เจอกัน พอเห็นข่าวก็ได้คุยกับแก ก็เข้าใจภรรยาแกอยู่ด้วยกันมา 20 ปี แล้วเป็นแม่ของลูกด้วย พอล้มเขาก็ล้มตาม ก็เป็นจังหวะมรสุมชีวิต
มรสุมพี่โจอี้ เจอเรื่องปัญหาธุรกิจ เรื่องภรรยา เรื่องมาเสพติด มาเป็นปัญหาเรื่องเส้นเลือดในสมองตีบ ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น มันมีสัญญาณบอกก่อนไหม ?
โจอี้ : ไม่เลย เป็นเฉยๆ
กำปั้น : หลังจากที่โดนเรื่องนั้น 3 วัน ก็เครียด
ตอนนี้ถือว่าฟื้นมากี่เปอร์เซ็นต์แล้ว ?
โจอี้ : ฟื้นแล้วครับ คือปกติเนี่ย 3 ปี ถึงจะหาย แต่ผมปีเดียว
