องค์การอนามัยโลก ประกาศการตั้งชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก จากต้นแหล่งในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ทางภาคกลางของประเทศจีน ว่า โควิด-19 (COVID-19) หรือ โควิด นายน์ทีน พร้อมกับเผยว่า วัคซีนขนานแรกที่จะใช้รักษาเชื้อไวรัสตัวนี้ อาจจะผลิตคิดค้นได้สำเร็จภายใน 18 เดือนข้างหน้า
นายทีโดรส อัดฮานอม กีเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก หรือ ดับเบิลยูทีโอ แถลงต่อสื่อมวลชน ที่สำนักงานใหญ่ในนครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันอังคาร (11 ก.พ.) ว่า ชื่อเรียกอย่างเป็นทางการนี้ ถูกคัดเลือกเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความสับสน และเกิดความเสื่อมเสียต่อประชาชน หรือสถานที่ต้นแหล่ง
โดยชื่อมาจากคำผสมของตัวย่อในภาษาอังกฤษคือ โคโรนา (corona) ไวรัส (virus) และเชื้อโรค (disease) ส่วน 19 มาจากปีที่เริ่มเกิดการแพร่ระบาดคือ ค.ศ. 2019
นายทีโดรส อดีตรัฐมนตรีสาธารณสุขเอธิโอเปีย กล่าวว่า ปัจจุบันองค์การอนามัยโลกยังคงดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์การยับยั้ง พร้อมกับเรียกร้องต่อประเทศต่างๆ ให้ต่อสู้การแพร่ระบาด ของไวรัสที่กลายเป็น “ศัตรูหมายเลข 1 ของสาธารณชน” ตัวนี้ อย่างก้าวร้าวมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
นายทีโดรสเผยอีกว่า ขณะนี้คณะนักวิทยาศาสตร์นานาชาติ กำลังทำการศึกษาวิจัย เพื่อผลิตวัคซีนรักษาเชื้อไวรัส โควิด-19 โดยเขาคิดว่าวัคซีนตัวแรก น่าจะผลิตออกมาได้ภายใน 18 เดือนนับจากนี้
ดร.กีบรีเยซุส กล่าวอีกว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีน ถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงมากต่อส่วนที่เหลือของโลก พร้อมเรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ กำหนดมาตรการเพื่อป้องกันและควบคุมการระบาดของไวรัสร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอย่างน้อย 30 ประเทศที่มีระบบสาธารณสุขอ่อนแอ
ทางด้านสถานการณ์การแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัส โควิด-19 นับถึงเวลา 06.00 น.เช้าวันอังคารที่ 11 ก.พ. ตามเวลาท้องถิ่นเจนีวา มีรายงานผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยัน 42,708 คนในประเทศจีน ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตในจีนพุ่งผ่านหลัก 1,000 คน เป็น 1,017 คน ส่วนผู้ติดเชื้อนอกประเทศจีนมี 393 คนใน 24 ประเทศ โดยเสียชีวิต 1 รายที่ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งหมายความว่า จนถึงขณะนี้ ผู้ป่วยติดเชื้อ 99 เปอร์เซ็นต์อยู่ในจีน.