ภาพ STR / KCNA VIA KNS / AFP
คิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ให้คำมั่นยิงขีปนาวุธข้ามดินแดนญี่ปุ่นอีก พร้อมยืนยัน การยิงขีปนาวุธในเชิงยั่วยุครั้งนี้ เป็นเพียงการ "เริ่มต้น" เท่านั้น
ภาพ STR / KCNA VIA KNS / AFP
สำหรับขีปนาวุธพิสัยกลางฮวาซอง-12 ที่เปียงยางยิงข้ามญี่ปุ่นเมื่อเช้าวันอังคารที่ผ่านมา ถือเป็นการเพิ่มความตึงเครียดครั้งใหญ่ ขณะที่ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โสมแดงขู่ยิงขีปนาวุธไปตกในทะเลใกล้เกาะกวม ดินแดนของสหรัฐในมหาสมุทรแปซิฟิก ส่วนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เตือนเกาหลีเหนือจะพบกับ "เพลิงแค้นและความเกรี้ยวกราด"
หลังจากการทดลองขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ ทรัมป์ ก็ออกมาแถลงว่า "ทุกทางเลือก" ในการจัดการกับเกาหลีเหนือ ยังวางอยู่บนโต๊ะ รวมทั้งการใช้กำลังทหารชิงโจมตีก่อน หลังจากที่เขาเพิ่งแสดงความยินดีเมื่อไม่กี่วันว่า คิมดูเหมือนจะเริ่มให้ความเคารพสหรัฐแล้ว จากการยับยั้งชั่งใจไม่ยิงขีปนาวุธโจมตีเกาะกวมอย่างที่ขู่ไว้
ด้านคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี ซึ่งคว่ำบาตรเกาหลีเหนือไป 7 ครั้งแล้ว ระบุในแถลงการณ์ด้วยมติเอกฉันท์ว่า การกระทำของเกาหลีเหนือ ไม่เพียงแต่เป็นภัยคุกคามต่อภูมิภาคเท่านั้น แต่ยังเป็นภัยต่อประเทศสมาชิกยูเอ็นทั้งหมดด้วย ทั้งจีนและรัสเซีย ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของเกาหลีเหนือ ต่างสนับสนุนแถลงการณ์ ที่ร่างโดยสหรัฐ แต่ก็ไม่ได้มีมาตรการใหม่ หรือเข้มข้นกว่าเดิมในการเล่นงานรัฐบาลเปียงยาง
ภาพ Kazuhiro NOGI / AFP
ขณะที่ หนังสือพิมพ์โรดอง ซินมุน กระบอกเสียงของพรรครัฐบาลเกาหลีเหนือ ฉบับวันพุธ ลงภาพกว่า 20 ภาพ เกี่ยวกับการยิงขีปนาวุธใกล้กรุงเปียงยาง ซึ่งในจำนวนนี้ มีภาพของนายคิมกำลังยิ้มกว้างที่โต๊ะตัวหนึ่งพร้อมแผนที่มหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันตกเฉียงเหนือ แวดล้อมไปด้วยนายทหารที่ใกล้ชิด ส่วนอีกภาพเป็นภาพที่เขาเงยหน้ามองขณะขีปนาวุธทะยานขึ้นสู่อากาศ
ด้านกองทัพเกาหลีใต้ แถลงเมื่อวันอังคารว่า ขีปนาวุธลูกนี้ บินไกลรวมระยะทางประมาณ 2,700 กิโลเมตร และพุ่งขึ้นสู่อากาศสูงสุด 550 กิโลเมตร ส่วนสำนักข่าวกลางเกาหลี หรือเคซีเอ็นเอ ของเกาหลีเหนือ รายงานอ้างคำกล่าวของคิม จอง อึน ที่ระบุว่า หากจำเป็นก็จะมีการทดสอบขีปนาวุธโดยมีเป้าหมายเป็นมหาสมุทรแปซิฟิกอีกในอนาคต การทดสอบเมื่อวันอังคาร แค่เป็นการโหมโรงเพื่อให้รู้ว่า การโจมตีเกาะกวมไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรง หากถูกรุกราน นอกจากนี้ ยังเป็นการเริ่มต้นมาตการตอบโต้ของเกาหลีเหนือ ต่อการซ้อมรบร่วมของกองทัพสหรัฐและเกาหลีใต้ที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ซึ่งเกาหลีเหนือมองว่า เป็นการเตรียมการเพื่อรุกราน
ทั้งนี้ แถลงการณ์เมื่อวันพุธ ถือเป็นครั้งแรกที่เกาหลีเหนือยอมรับว่า ยิงขีปนาวุธทะยานข้ามดินแดนของญี่ปุ่น ซึ่งก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือยิงมาแล้ว 2 ลูกในปี 2541 และ 2552 ทั้ง 2 ครั้งนี้ โสมแดงอ้างว่า ยิงจากฐานยิงเคลื่อนที่
อย่างไรก็ตาม การยิงขีปนาวุธข้ามญี่ปุ่นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จุดชนวนให้ทั่วโลกตะลึงกับพฤติกรรมของเกาหลีเหนือ และในภาคพื้นดิน ถึงกับมีเสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นในญี่ปุ่น เพื่อเตือนให้ประชาชนทราบ
ภาพ KENA BETANCUR / AFP
ทรัมป์ ระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งของทำเนียบขาวว่า การกระทำอันเป็นภัยคุกคามและทำลายเสถียรภาพ เป็นการเพิ่มการโดดเดี่ยวรัฐบาลเกาหลีเหนือในภูมิภาค และในประเทศทั่วโลก ส่วนที่ประชุมฉุกเฉินของยูเอ็นเอสซี นางนิกกี เฮลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำยูเอ็น เตือนว่า พอกันที และว่า ต้องใช้ไม้แข็งเท่านั้นกับเกาหลีเหนือ
"เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ เป็นการละเมิดมติของยูเอ็นเอสซี เพราะฉะนั้น ฉันคิดว่า ต้องมีการเอาจริงกันบ้างแล้ว" เฮลีย์ กล่าว
ภาพ Kazuhiro NOGI / AFP
ส่วนกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น กำลังตรวจสอบอยู่ว่า เกาหลีเหนือจงใจลดระยะทางของขีปนาวุธลูกนี้หรือไม่ และดูเหมือนจะเป็นขีปนาวุธพิสัยกลางชนิดใหม่ ที่เคยยิงและตกในทะเลญี่ปุ่นเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีพิสัยทำการสูงสุดถึง 5,000 กิโลเมตร แต่ขีปนาวุธลูกนี้ ไปตกแค่ครึ่งทางเท่านั้น จึงเป็นไปได้ว่า เกาหลีเหนือจงใจลดระยะทำการด้วยการจำกัดปริมาณเชื้อเพลิง