สุดเศร้า! รอรับศพ "ผู้กองพลีชีพ" แม่เผยไร้ลางสังหรณ์

2020-02-09 18:05:07

สุดเศร้า! รอรับศพ "ผู้กองพลีชีพ" แม่เผยไร้ลางสังหรณ์

Advertisement

ที่บ้านเกิดของ ร.ต.อ.ตระกูล ทาอาษา ผู้กองพลีชีพเหตุจ่าทหารกราดยิงกลางเมืองโคราช พ่อแม่ญาติพี่น้องจัดเตรียมสถานที่รอรับศพมาทำพิธีท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 9 ก.พ. ที่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 7 บ้านดงมะตื๋น ต.ผางาม อ.เวียงชัย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นบ้านของนายก๋วน ทาอาษา อายุ 63 ปี และนางเพียรศรี ทาอาษา อาย 57ปี ทั้งสองเป็นพ่อและแม่ของ ร.ต.อ.ตระกูล ทาอาษา หรือ ผู้กองปุ๊ ผบ.หมวด(สบ.1)กองร้อยปฎิบัติการพิเศษที่ 2 กก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.สปพ. ที่เสียชีวิตจากการเข้าไปปฎิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธกราดยิงผู้บริสุทธิ์ใน ห้างดังใน จ.นครราชสีมา ตามที่เสนอข่าวนั้น

เมื่อผู้สื่อข่าวไปถึงที่บ้านพบว่า ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เวียงชัย จ.เชียงราย ชาวบ้าน และญาติมิตร ต่างพากันแสดงความเสียใจและพูดจาเพื่อช่วยคลายความเศร้าโศกให้กับพ่อและแม่ของ ร.ต.อ.ตระกูล บางส่วนก็นำภาพถ่ายของ ร.ต.อ.ตระกูล มาเปิดดู นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านช่วยกันใช้รถขนโต๊ะและเก้าอี้เพื่อเตรียมไว้ใช้จัดงานศพ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ รพ.ส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลผางามก็ได้เข้ามาพูดคุยให้กำลังใจกับครอบครัวของ ร.ต.อ.ตระกูล อีกด้วย




นายก๋วน กล่าวว่า เพิ่งทราบเรื่องเมื่อช่วงเช้าประมาณเวลา 07.00น. ได้มีน้องชายของ ร.ต.อ.ตระกูล ซึ่งกำลังศึกษาเป็นนักเรียนพลตำรวจ ได้โทรมาแจ้งเรื่องการเสียชีวิตของพี่ชายตนเอง พอทราบเรื่องทั้งตนเองและภรรยารู้สึกตกใจและเสียใจมาก ทำอะไรไม่ถูกพากันร้องไห้ด้วยความเสียใจ เมื่อ 3-4 วันก่อน ร.ต.อ.ตระกูล ยังโทรมาหาพูดคุยกันในเรื่องสวนยาง ก็ไม่มีสิ่งบอกเหตุอันใด เพราะลูกชายมักจะบอกเสมอว่าไม่ต้องเป็นห่วงในเรื่องการทำหน้าที่ ทุกครั้งที่ได้พูดคุยกัน และ ร.ต.อ.ตระกูล ยังไม่ได้แต่งงานเพียงแต่มีแฟนที่คบหาดูใจกัน

ด้านนางเพียรศรี กล่าวว่า ลูกชายเป็นคนนิสัยดีมารยาทเรียบร้อย เป็นคนเงียบครึม ใจดี ทุกวันนี้ทำงานเป็นเสาหลักของครอบครัว ตนมีลูกชายสองคน ร.ต.อ.ตระกูล เป็นคนโต ส่วนอีกคนเป็นน้องชายกำลังเรียนตำรวจ อีก 5 เดือนก็จะจบออกมารับราชการตำรวจตามรอยพี่ชาย ที่ผ่านมาลูกชายจะมาเยี่ยมบ้านปีละ 1-2ครั้ง ก่อนเกิดเหตุวันนี้ตนเองและสามี รวมถึงคนอื่นๆในบ้านไม่ได้มีลางบอกเหตุว่าจะสูญเสียลูกชายไปแบบไม่มีวันกลับ แต่ก็ภูมิใจเพราะสละชีพเพื่อชาติ อาชีพตำรวจเป็นอาชีพที่ลูกชายรัก และตั้งใจเล่าเรียนจนจบและทำงานมานานกว่า 10 ปี



ในส่วนของการจัดงานศพตอนนี้ยังคงต้องรอการประสานมาจากต้นสังกัดของลูกชายว่าจะนำศพมาส่งเมื่อไหร่หรืออย่างไร ถึงจะปรึกษากันในหมู่ญาติมิตร เพื่อจะได้กำหนดวันการทำพิธีต่างๆ ส่วนสถานที่ตั้งศพและทำพิธีต่างๆก็จะใช้ที่วัดดงมะตึ๋น ซึ่งเป็นวัดภายในหมู่บ้าน เนื่องจากถ้าจะจัดที่บ้านสถานที่คงจะคับแคบเกรงจะไม่สดวก อย่างไรก็ตามคงต้องรอปรึกษากับญาติๆทั้งหมดด้วยกันอีกครั้ง.