จำนวนผู้เสียชีวิตจากการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทะยานแซงตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการระบาดของโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือซาร์ส ในปี 2546 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 774 ราย จากการระบาดกว่า 20 ประเทศแล้ว โดยแค่ในมณฑลหูเป่ย ศูนย์กลางการระบาดของไวรัส แห่งเดียว ยอดผู้เสียชีวิตขณะนี้ ก็พุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 780 รายแล้ว แต่ผู้เสียชีวิตทั่วโลกมีจำนวน 814 ราย ยกเว้นเพียง 2 ราย ที่เสียชีวิตในฮ่องกงและฟิลิปปินส์ ที่เหลืออยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ทั้งหมด
มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลกมากกว่า 37,500 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ก็อยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ ในรายงานล่าสุด เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในหูเป่ย ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตรายใหม่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา 81 ราย ทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตทั้งสิ้นในมณฑลนี้ รวมอยู่ที่ 780 ราย
เมื่อเดือนที่แล้วองค์การอนามัยโลก หรือฮู ประกาศให้การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขโลก นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการของฮู กล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ยังคงรุนแรงในหูเป่ย และว่า ในช่วง 4 วันที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะมีเสถียรภาพขึ้นเล็กน้อยในแง่ของจำนวนผู้ติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่า ไวรัสอยู่ในช่วงของการระบาดสูงสุดหรือยัง เพราะการระบาดมักลดลง ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นใหม่ได้อีก
แต่เขาก็บอกว่า การลดลงของตัวเลขผู้ติดเชื่อ ก็เป็นโอกาสสำหรับเจ้าหน้าที่ที่จะทำงานในการควบคุมไวรัสให้ได้ผลดียิ่งขึ้น
ขณะที่คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) เปิดเผยว่า จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ได้รับการยืนยันผลรายใหม่นอกมณฑลหูเป่ย ลดลงติดต่อกันเป็นเวลา 5 วันแล้ว ข้อมูลจากคณะกรรมการฯ เผยให้เห็นว่าจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันผลรายใหม่นอกมณฑลหูเป่ย รวมอยู่ที่ 509 รายในวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่วนจำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันผลรายใหม่นอกหูเป่ยในช่วง 5 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 890, 731, 707, 696 และ 558 ราย ตามลำดับ นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 3 ก.พ.
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้รับรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ได้รับการยืนยันผลเพิ่มขึ้น 2,656 ราย และผู้ติดเชื้อเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 89 ราย กระจายตัวอยู่ในภูมิภาคระดับมณฑล 31 แห่งในวันเสาร์ (8 ก.พ.)
ส่วนในวันอาทิตย์ สื่อจีนรายงานว่า มณฑลหูเป่ย จะยังคงปิดโรงเรียนไปจนถึงอย่างน้อยวันที่ 1 มีนาคม