รพ.นครปฐมแถลงความสำเร็จรักษาคนไทยรายแรกอาม่าวัย 73 ปีติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หลังจากกลับเที่ยวอู่ฮั่น โดยไม่ได้ใช้ยาต้านไวรัสเอชไอวี ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 4 ก.พ. ที่ รพ.นครปฐม จ.นครปฐม พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขต 5 พร้อมด้วย นพ.สามารถ ถิระศักดิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม พญ.ดารารัตน์ รัตนรักษ์ ผอ.รพ.นครปฐม ร่วมกันแถลงข่าวกรณีการรักษา นางใจ้ม้วย แซ่อึ๊ง อายุ 73 ปี ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 รายแรกของประเทศไทย และสามารถรักษาจนหายได้เป็นรายแรกของประเทศไทยเช่นกัน
พญ.อัมพร กล่าวว่า การรักษาครั้งนี้ รพ.นครปฐมใช้ทีมแพทย์ทั้งหมด 6 คน พยาบาลอีก 11 คน มีการจัดทีมผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน คอยดูแลอาการ พร้อมประเมินผู้ป่วยทุกวัน นอกจากนี้ยังใช้จิตแพทย์เข้าไปดูแล รวมถึงการพูดคุยผ่านระบบอินเตอร์คอม และโทรศัพท์ที่อยู่ภายในห้องปลอดเชื้อ เพื่อเป็นการผ่อนคลาย เนื่องจากผู้ป่วยอยู่ไกลญาติ อาจจะเกิดความเครียดและ ส่งผลต่อร่างกายตามมาได้
ด้านทีมแพทย์ กล่าวว่า ตอนที่อาม่าใจ๊ม่วย เข้ามาหาครั้งแรก ตรวจพบการติดเชื้อมาแล้ว 12 วัน ซึ่งอยู่ในระยะเพาะเชื้อ 14 วันพอดี และยังตรวจพบโรคแทรกซ้อนอีกหลายโรค อาทิ โรคหัวใจ ไทรอยด์ ความดันโลหิตสูง เอกซเรย์พบน้ำท่วมปอด ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ว่าอาการอาจจะกำเริบของหัวใจและปอด จากนั้นทีมแพทย์ประกอบด้วย อายุรกรรมแพทย์โรคหัวใจ อายุรกรรมแพทย์โรคติดเชื้อ อายุรกรรมแพทย์โรคระบบทางเดินหายใจ และจิตแพทย์ ทำการประเมินอาการร่วมกัน ก่อนจะวินิจฉัยว่าสามารถรับมือได้ เนื่องจากโรงพยาบาลมีผู้เชี่ยวชาญครบทุกด้าน จึงค่อยๆ รักษาตามอาการไปเรื่อยๆ จนคนไข้สามารถมีภูมิต้านทานขึ้นมาจนมีค่าการติดเชื้อเป็นลบในที่สุด ซึ่งใช้เวลาการรักษารวม 9 วัน ก็หายเป็นปกติ โดยการรักษาครั้งนี้ ไม่ได้ใช้ยาต้านไวรัสเอชไอวีและยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่แต่อย่างใด
ขณะที่ อาม่าใจ้ม่วย เปิดเผยว่า ตนเดินทางไปเที่ยวเมืองอู่ฮั่นไม่ได้ไปเที่ยวตามตลาดสด ไปเพียงตามแหล่งท่องเที่ยวทั่วไป ไม่ทราบว่าติดมาจากไหน แต่ไปตามสถานที่ต่างๆก็มีคนจำนวนมากอยู่แล้ว จนกลับมาถึงไทยมีอาการปวดเมื่อยตัว เจ็บคอ จึงมาหาหมอ ยอมรับว่าช่วงแรกที่ทราบก็เครียดเล็กน้อยเนื่องจากถูกจำกัดพื้นที่ แต่ก็เชื่อมั่นในความสามารถของแพทย์ที่รักษา จนอาการดีขึ้นเรื่อยๆ
ด้าน นางกฤติกา แซ่อึ๊ง ลูกสาวของอาม่าใจ้ม่วย เปิดเผยว่า ในช่วงแรกที่ทราบว่าอาม่าติดเชื้อไวรัสดังกล่าว ยอมรับว่าตนมีความหวังเพียง 50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่ภายหลังเข้ารับการรักษาคุณหมอก็ดูแลคนไข้เป็นอย่างดี