อาลัย "อุทัย แก้วละเอียด" มือระนาดเอกชั้นครู ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทย) เสียชีวิตสิริรวมอายุ 88 ปี
เมื่อวันที่ 3 ก.พ.นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) เปิดเผยว่า นายอุทัย แก้วละเอียด ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทย) พุทธศักราช 2552 เสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 ก.พ.2563 เวลาประมาณ 06.40 น. ที่ รพ.ศิริราช เนื่องมาจากปอดติดเชื้อ สิริรวมอายุ 88 ปี โดยทางทายาท ได้ขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ในวันที่ 4 ก.พ.2563 เวลา 17.00 น. และสวดพระอภิธรรมศพ เวลา 18.00 น. จากนั้นระหว่างวันที่ 5-8 ก.พ.2563 มีกำหนดสวดพระอภิธรรมศพ เวลา 19.00 น. ณ ศาลา 5 วัดมกุฏกษัตริยาราม ราชวรวิหาร เขตพระนคร กทม. ซึ่งทางครอบครัวจะเก็บศพไว้บำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 100 วัน และกรมส่งเสริมวัฒนธรรม จะดำเนินการขอพระราชทานเพลิงศพให้ต่อไป
นายชาย กล่าวต่อว่า นอกจาก สวธ.ในฐานะหน่วยงานที่ดำเนินการยกย่องเชิดชูเกียรติศิลปินแห่งชาติ จะขอพระราชทานเพลิงศพแล้ว และยังให้การช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ด้วยการมอบเงินช่วยเหลือเมื่อเสียชีวิตเพื่อร่วมการบำเพ็ญกุศลศพ จำนวน 2 หมื่นบาท และเงินช่วยเหลือค่าจัดทำหนังสือเพื่อเผยแพร่ผลงานเมื่อเสียชีวิตเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 1.5 แสนบาท ตามระเบียบสวัสดิการของศิลปินแห่งชาติ
สำหรับประวัติของ นายอุทัย แก้วละเอียด เกิดเมื่อวันที่ 23 ก.ค.2475 ที่ ต.อัมพวา อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนวัดอัมพวา จ.สมุทรสงคราม เติบโตในครอบครัวปี่พาทย์ ได้หัดดนตรีไทยจนมีความสามารถ ต่อมาฝากตัวเป็นลูกศิษย์ระนาดเอกของหลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ณ สำนักปี่พาทย์บ้านบาตร เป็นศิษย์ที่คุณครูรักมากที่สุดคนหนึ่ง ได้รับการถ่ายทอดชั้นเชิงการบรรเลงเดี่ยวระนาด เพลงหน้าพาทย์ การปรับวง การขับร้อง และการประชันวงอย่างลึกซึ้งมีความรู้เแตกฉาน ทั้งทางระนาดเอกและระนาดทุ้ม ท่านยังมีผลงานและ ประสบการณ์ด้านดนตรีไทยมาอย่างยาวนานกว่า 65 ปี ได้รับใช้งานดนตรีที่บ้านบาตร แม้จนกระทั่งเกิดมูลนิธิหลวงประดิษฐ์ไพเราะขึ้นมาใน พ.ศ. 2524 ก็ยังทำหน้าที่เป็นทั้งครูผู้ฝึกสอน เป็นกรรมการตัดสินกิจกรรมการประกวดดนตรี และรับประสิทธิการอ่านโองการไหว้ครูโดยตรงจากคุณหญิงชิ้น ศิลปบรรเลง ได้ร่วมงานกับทายาทของคุณครูหลายท่าน โดยทำหน้าที่บรรเลงระนาดเอกให้กับคณะนาฏศิลป์ผกาวลีมาโดยตลอด ทั้งการแสดงในประเทศไทยและการออกเดินทางเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมในต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังได้บรรเลงระนาด ในรายการ “ดร.อุทิศแนะดนตรีไทย” ออกเผยแพร่ความรู้แก่สาธารณชนมาเป็นเวลากว่า 30 ปีและบรรเลงปี่พาทย์ไว้กับงานบันทึกเสียงเพลงไทยอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งเพลงโบราณ เพลงชุดความรู้สายวิชาหลวงประดิษฐ์ไพเราะ และเพลงที่ ศ.ดร.อุทิศ นาคสวัสดิ์ ได้ประพันธ์ขึ้นใหม่ ได้ใช้ความรู้ความสามารถทางด้านดนตรีไทยไปเผยแพร่ยังประเทศสหรัฐอเมริกา อาร์เจนตินา แคนาดา เม็กซิโก ปานามา ชิลี บราซิล กับคุณหญิงชิ้น ศิลปะบรรเลง เป็นเวลา ๙ เดือน มีผลงานประพันธ์เพลงจำนวนมาก เช่น เพลงอุสเรน เถา เทพทอง เถา ดอกไม้เหนือ เถา สุดคะนึง เถา โหมโรงมัธยมศึกษา โหมโรงอักษรศาสตร์ ฯลฯ ผลงานเพลงมีความไพเราะมาก ในวงการดนตรีปัจจุบันก็ยังมีการนำมาใช้บรรเลงอยู่ ได้รักษาตำราและพิธีการไหว้ครูของหลวงประดิษฐ์ไพเราะไว้อย่างเคร่งครัดต่อจากรุ่นครูประสิทธิ์ ศิลปะบรรเลง และท่านยังได้รับเชิญให้แสดงเดี่ยวระนาดเอก ในการแสดงระนาดโลก ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ได้รับยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทย) จากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้รับรางวัลเพชรสยาม สาขาดนตรีไทย จากมหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม ในช่วงบั้นปลายของชีวิต ยังคงยึดมั่นตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ให้แก่ศิษย์ทำให้มีลูกศิษย์จำนวนมากยังดูแลและปรับวงไทยบรรเลงที่อำเภออัมพวาบ้านเกิด จนเป็นวงดนตรีไทยที่มีชื่อเสียงและยังสร้างสรรค์ผลงานเพลงอย่างต่อเนื่องนายอุทัย แก้วละเอียด จึงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทย) พุทธศักราช 2552