คพ.ร่วมกับ จ.สระบุรี ติดตามการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ ใน พื้นที่ ต.หน้าพระลาน
จากกรณีปัญหาฝุ่นละอองในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ. สระบุรี มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน เกินมาตรฐานติดต่อกันมาหลายวัน และบางวัน ข้อมูลแสดงค่าฝุ่นขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน มีค่าสูงเกินมาตรฐาน นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษร่วมกับ จ.สระบุรี เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองใน จ.สระบุรีอย่างใกล้ชิด
เมื่อวันที่ 30 ม.ค. นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า คพ.ได้ลงพื้นที่ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสระบุรี สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 7 กอ.รมน.สระบุรี และตัวแทนนายอำเภอเฉลิมพระเกียติ เข้าตรวจและให้คำแนะนำโรงงานปูนขาวและโรงโม่หิน ซึ่งพบว่าโรงงานปูนขาวควรมีการจัดทำพื้นที่สำหรับป้อนวัตถุดิบให้เป็นสัดส่วนและเป็นระบบปิด รวมทั้งควรมีการติดตั้งกำแพงกันลม (wind break) เพื่อชะลอความเร็วลมในกรณีมีลมแรง ทั้งจะช่วยลดการฟุ้งกระจายจากฝุ่นปูนขาว นอกจากนี้ควรปรับเปลี่ยนอุปกรณ์การจ่ายผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในรูปปูนผงให้สามารถปรับระยะห่างในการจ่ายปูนขาวได้อย่างเหมาะสม ไม่เกิดการฟุ้งกระจาย รวมทั้งควรจัดหารถดูดฝุ่นขนาดเล็กเพื่อใช้กำจัดฝุ่นตกสะสมในพื้นที่ สำหรับโรงโม่หินควรปรับปรุงระบบสเปรย์น้ำบริเวณปากโม่ให้มีความละเอียดมากขึ้นเพื่อให้สามารถจับอนุภาคของฝุ่นได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มจำนวนหัวสเปรย์ นอกจากนี้ควรเพิ่มการปิดคลุมบริเวณสายพานลำเลียงให้ครบถ้วนและใช้วัสดุที่เหมาะสม และควรใช้การปฏิบัติที่ดีในการตักหินและเทใส่รถบรรทุก ให้ช้าลงเพื่อลดฝุ่นฟุ้งกระจาย
นายประลอง กล่าวว่า คพ.ได้เข้าร่วมประชุมกับ จ.สระบุรี เกี่ยวกับมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองในพื้นที่ ต.หน้าพระลาน โดยมี ผวจ.สระบุรีเป็นประธาน ข้อสรุปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ 1.ให้เข้มงวดกวดขันการระบายฝุ่นละอองจากโรงงานอุตสาหกรรมทุกประเภทให้เป็นไปตามกฎหมาย ลดกำลังการผลิต และเลื่อนเวลาเปิดดำเนินการในช่วงเช้าหรือช่วงเย็นให้สอดคล้องกับสภาพอากาศ รวมทั้งจัดทำแผนสำหรับวันหยุดการปฏิบัติงานของโรงโม่ฯในพื้นที่ตามความสมัครใจเพื่อให้มีการกระจายตัวและลดความเสี่ยงในการระบายฝุ่นจากแหล่งกำเนิด 2.บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดในประเด็นการตรวจสอบตรวจจับรถควันดำ รถบรรทุกที่ปิดคลุมกระบะบรรทุกไม่มิดชิด รวมทั้งยังมีการเข้มงวดเรื่องการบรรทุกที่มีน้ำหนักเกินกฎหมาย 3. เข้มงวดกวดขันห้ามเผาในที่โล่ง เผาเศษวัสดุจากการเกษตร และไฟป่า 4.ตรวจให้คำแนะนำสถานประกอบการเพื่อให้ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายและมีการจัดการฝุ่นละอองที่เหมาะสม และ 5.พิจารณาทำทางเบี่ยงเลี่ยงเข้าพื้นที่ชั้นในโดยตัดถนนใหม่เพื่อใช้เป็นเส้นทางให้รถบรรทุกขนส่งวิ่งเพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวด้วยว่า คพ. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งจุดตรวจบริเวณถนนพหลโยธิน หน้าสำนักงานป่าไม้ที่ 5 อ.เฉลิมพระเกียรติ เมื่อวันที่ 27-28 ม.ค. ตรวจเข้มงวดกับรถบรรทุกที่ไม่คลุมผ้าใบหรือปิดให้มิดชิด และรถบรรทุกที่วิ่งตามไหล่ทาง ผลดำเนินการเรียกรถตรวจ 188 คัน เป็นรถบรรทุกตาม พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 109 คัน ควันดำเกินมาตรฐาน 12 คัน ผู้ตรวจการขนส่งได้พ่นเครื่องหมายห้ามใช้รถที่มีควันดำเกินมาตรฐานเพื่อให้แก้ไขปรับปรุง และเรียกรถยนต์ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ตรวจสอบควันดำ 79 คัน เกินมาตรฐาน 11 คัน พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ออกคำสั่งห้ามใช้ชั่วคราวเพื่อให้ไปแก้ไขปรับปรุง และ คพ.ได้จัดทีมลาดตระเวณพื้นที่ช่วงกลางวันและกลางคืนเพื่อตรวจสอบสถานประกอบการ เมื่อพบเหตุผิดปกติในการระบายฝุ่น รวมทั้งไฟป่า ได้แจ้งให้หน่วยที่เกี่ยวข้องทราบและดำเนินการต่อไป