ลุงขอทานขับฟอร์จูนเนอร์เข้ามอบตัวกับตำรวจ สน.บางใหญ่ โดนปรับ 1,000 บาท ทำผิด พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ. ศ. 2559 เป็นอันสิ้นสุดคดี อ้างมีรายได้ 100 –200 บาทพอกินพอใช้ไปวันๆ
จากกรณีที่มีการแชร์คลิปของชายคนหนึ่งขับรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีดำ มาจอดบริเวณหน้าวัดดอนสะแก จ.นครปฐม แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสภาพเก่า สวมแว่นตาดำ มีไม้เท้านำทางคล้ายคนตาบอดเข้าไปขอทานในวัดดังกล่าว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ม.ค. ชายคนดังกล่าวที่ปรากฏตามคลิป ได้เดินทางเข้ามอบตัว ที่ สภ.บางใหญ่ โดยทันทีที่มาถึง พนักงานสอบสวนของสภ.บางใหญ่ ได้นำตัวลงจากรถ และพาตัวเข้าห้องสืบสวนทันทันที โดยชายคนดังกล่าวได้สวมหมวกคลุมแบบลายทหาร สวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ต่อมา พ.ต.อ.สุรพจน์ รอดบำรุง ผกก.สภ.บางใหญ่ พร้อมเจ้าหน้าที่ พม. ได้เดินทางมายังห้องสืบสวน เพื่อร่วมสอบปากคำโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชม.
พ.ต.อ.สุรพจน์ ให้สัมภาษณ์ว่า จากการสอบสวน ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ( พม.) พบว่า ก่อนหน้านี้ลุงเคยทำธุรกิจเล็กๆ ขายเนื้อหมู เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่เลี้ยงกุ้งแต่เนื่องจากเเศรษฐกิจฝืดเคือง ขาดทุน ทำให้ไม่มีรายได้ใช้จ่ายในครอบครัว จึงจำเป็นต้องออกมากระทำการดังกล่าวตามที่เป็นข่าว จากการสอบสวน เป็นความผิด พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ. ศ. 2559 คือ กระทำการเป็นขอทาน ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยทางในส่วนของตำรวจและ กรมพัฒนาสังคม พิจารณาร่วมกันแล้ว จึงดำเนินการเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 1,000 บาท ก็เป็นการสิ้นสุดของคดี เป็นการลงโทษ เพื่อให้เข็ดหลาบในการกระทำ
พ.ต.อ.สุรพจน์ มองว่าเป็นการกระทำความผิดเพียงเล็กน้อย ไม่ใช่ความผิดร้ายแรง และทำไปเพราะ ความฝืดเคืองเรื่องเงินทอง โดยไม่มีรายได้เข้ามาเลย อยู่กันสองตายาย ซึ่งก็เป็นเรื่องน่าเห็นใจ ปกติแล้ว คุณลุงรักในการร้องเพลงอยู่เป็นทุน จึงตัดสินใจกระทำการแบบนี้ โดยรายได้ ในแต่ละวัน ก็ประมาณ 100 ถึง 200 บาทพอกินพอใช้ไปวันๆ
ส่วนพม.เจ้าหน้าที่อธิบายว่า หากต้องการยึดเป็นอาชีพก็สามารถไปขออนุญาตได้ที่ พม. เบื้องต้นลุงอยู่ในเขตพื้นที่การรับผิดชอบของ พม. นนทบุรีอยู่แล้ว อีกอย่างอายุลุงอายุเกิน 60 แล้ว ก็เข้าข่าย ในการที่จะขออนุญาตได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องเข้าพบเจ้าหน้าที่ พม. เพื่อทดสอบความสามารถว่าทำได้หรือไม่ โดยหลังจากเสร็จสิ้นจากการสอบสวน ลุงคนดังกล่าว ได้รีบขึ้นรถกลับ ในทันทีโดยไม่ได้ตอบคำถามใดๆกับสื่อมวลชน