“เทพไท”แนะรัฐบาลแก้ไขปัญหาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณอย่างรอบคอบ ถูกต้องชอบธรรม ไม่ขัดต่อหลักกฏหมาย
เมื่อวันที่ 29 ม.ค. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีการเสียบบัตรแทนกันว่า จากการที่รัฐบาลไม่สามารถประกาศใช้ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ของรัฐบาลได้ มีผลกระทบต่อการใช้จ่ายของหน่วยต่างๆในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งงบประมาณที่ใช้ในการพัฒนาพื้นที่ ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลในฐานะผู้รับผิดชอบงบประมาณแผ่นดิน จะต้องหาวิธีการหรือแนวทางแก้ไข เพื่อให้มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะล่าช้ามาเป็นเวลา 4 เดือนแล้ว ซึ่งในขณะนี้ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณดังกล่าว อยู่ในชั้นการพิจารณาตีความของศาลรัฐธรรมนูญ แต่อย่างไรก็ตามทางรัฐบาล ก็ควรที่จะคิดหาวิธืการหรือแนวทางแก้ไขคู่ขนานกันไปด้วย ซึ่งแนวทางในการแก้ปัญหาเพื่อให้มีการประกาศใช้ได้โดยเร็วที่สุด
นายเทพไท ระบุด้วยว่า ขณะนี้มีการเสนอทางออกของการแก้ไขปัญหาใน 5 แนวทาง คือ 1.การออกเป็นพระราชกำหนดโดยใช้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี2563 ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญแล้วเพื่อให้มีการประกาศใช้ไปก่อน ซึ่งอาจจะขัดต่อหลักการและขั้นตอนการจัดทำงบประมาณของแผ่นดิน 2.นำร่าง พรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี2563 ที่ได้รับการแก้ไขแล้วเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณา 3วาระรวดโดยมีการตั้งคณะกรรมมาธิการเต็มสภา ซึ่งในกรณีนี้จะต้องขอความร่วมมือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วย ถ้าพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่เห็นด้วย การพิจารณาอาจจะยืดเยื้อล่าช้ากว่าปกติพอสมควร 3.นำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี2563 ที่เพิ่งผ่านการลงมติไป กลับลงคะแนนใหม่ในวาระ2เฉพาะมาตราที่มีปัญหา และและลงมติวาระ3อีกครั้ง เพื่อให้ พ.ร.บ.ฉบับนี้มีความถูกต้องตามกฎหมาย
4.การนำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี2563 ที่เป็นร่างเดิม เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯเพื่อเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ จะให้ทำให้เสียเวลาอีกมากมาย 5.แนวความคิดของนายวิษณุ เครืองาม ที่โยนหินกรณีนำมาตรา 143 มาใช้แก้ปัญหานั้น ส่วนตัวเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะกระบวนการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณฯเสร็จสิ้นตามกรอบเวลา105วันแล้ว แต่ติดขัดที่กระบวนการพิจารณาไม่ถูกต้อง จึงไม่เข้าเงื่อนไขตามมาตรา143 ดังนั้นไม่ว่ารัฐบาลจะเลือกวิธีการแก้ปัญหาหรือหาทางออกของปัญหาในแนวทางใดก็ตาม อาจจะเป็นบรรทัดฐานที่ยึดถือเป็นแนวปฏิบัติในอนาคต เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหา พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฉบับนี้ ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ มีความถูกต้องชอบธรรม ไม่ขัดต่อหลักกฏหมายใดๆทั้งสิ้น