งานนี้สุดท้าทาย "แพนเค้ก" เผยเหตุผลโดดข้ามค่ายรับบทแม่ครั้งแรก

2020-01-29 11:35:49

งานนี้สุดท้าทาย "แพนเค้ก" เผยเหตุผลโดดข้ามค่ายรับบทแม่ครั้งแรก

Advertisement

พลิกบทบาทมารับบทแม่ครั้งแรกสำหรับนักแสดงสาว "แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์" หลังโดดมารับงานข้ามช่องในซีรีส์รีเมค "Mother...เรียกฉันว่าแม่" งานนี้พอเจอเจ้าตัวเลยสอบถามถึงเรื่องนี้ได้ความว่า

รับซีรีส์เรื่องล่าสุดต้องทำการบ้านอย่างไรบ้าง ?
เรื่องดังกล่าวเป็นซีรีส์เพื่อสังคมที่จะสะท้อนมุมมองของแม่หลายแบบ มันมีหลากหลายมุมมองสะท้อนออกมาให้เห็นในเรื่องนี้ เรียกว่าเป็นบทที่มีความท้าทายมากขึ้นดีกว่า ในด้านของอารมณ์ ในด้านของความเข้าใจแล้วก็เข้าถึงในตัวของคาแรกเตอร์ตัวนี้ ก็ต้องทำการบ้านอยู่พอสมควร ว่าความรู้สึกของเขาเป็นอย่างไร ทำไมถึงมาเป็นแบบนี้ ก็มีความซับซ้อนในหลายๆ อย่าง อีกทั้งได้มีโอกาสร่วมงานกับพี่ๆ ที่ไม่เคยมีโอกาสร่วมงานกันมาก่อนเลย ก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่าติดตาม





เราคุ้นชินกับบทแม่ไหม ?
ไม่คุ้นค่ะ (หัวเราะ) ถ้าเป็นแม่หมานี่โอเค แต่แพนมองว่าอยู่ที่ความคิดเรามากกว่าว่าถ้าเราคิดว่าการที่เรียกคำว่าแม่ของน้องคือเหตุผลอะไร หรือเรารักเขา อยากดูแลเขา จะปกป้องเขา แพนว่ามันก็มีเหตุผลที่ทำให้เราเชื่อในคำๆ นี้ได้



กลัวแฟนคลับตกใจบ้างไหมที่เรามารับบทแม่ ?
ไม่นะคะ ทุกวันนี้แพนคิดว่าในคำว่าแม่ มันไม่ได้จำกัดอายุอยู่แล้ว ก็มีมุมมองหลากหลายอย่างในเรื่องนี้ น่าจะทำให้คนดูได้เข้าใจและได้อะไรหลายอย่างจากเรื่องนี้



รู้สึกคุ้นชินกับการเล่นบทแม่ไหม เพราะที่บ้านก็มีเด็กๆ อยู่แล้ว ?


ไม่เลยค่ะ (หัวเราะ) แต่น้องมากิคือเก่งมาก เป็นนักแสดงอาชีพจริงๆ มาถึงก็จำได้ทุกอย่างได้หมด พร้อมทำงานจริงๆ จนทำให้เราไม่รู้สึกเลยว่าน้องคือเด็ก ทำงานได้ 100 เปอร์เซ็นต์จริงๆ ไม่บ่อยที่ได้มีโอกาสเล่นกับเด็ก อันนี้คือทั้งเรื่อง อยู่ด้วยกันตลอด และต้องพัฒนาความรู้สึกกันไปตลอด แพนคิดว่ามันน่าจะยากตรงนี้ที่เราต้องอยู่ด้วยกันและปรับตัวกัน

บทเรื่องนี้ต้องถือว่าพิเศษมากใช่ไหม เพราะเรายอมรับบทเป็นแม่เลย ?
ก็ได้รับเกียรติจากทางทีมว่าอยากได้เรามาร่วมงาน ซึ่งทางทีมก็ได้เข้าไปคุยกับผู้บริหารทรู ว่าอยากทำโปรเจกต์พิเศษที่จะจัดทำขึ้นมา เป็นซีรีส์สะท้อนสังคมที่มีคุณภาพ ก็คิดว่าน่าจะเป็นอะไรดีๆ





คุยกับทางผู้ใหญ่เรียบร้อยแล้วใช่ไหม เพราะหลายคนมองว่าอยู่ดีๆ ทำไมมาร่วมงานกับฝั่งนี้ได้ ?
ใช่ค่ะ เรียบร้อยค่ะ เพราะเราก็เป็นโปรเจกต์พิเศษจริงๆ แล้วทางผู้บริเองหรือทางเจเอสแอล เราก็ได้มีโอกาสร่วมงานกันมาโดยตลอด เป็นโปรเจกต์ดีๆ ซึ่งทางทรูเองก็โอเค

แต่ก็ไม่สามารถไปร่วมงานกับช่องอื่นได้ ?
ค่ะ คือจริงๆ แพนได้ร่วมงานกับทีมกันมาตั้งแต่สามเณรปลูกปัญญาธรรม ก็เป็นการร่วมมือของเจเอสเเอลด้วย คือผู้บริหารทุกท่านก็น่ารัก รวมถึงทรูกับเจเอสเเอลก็เป็นเหมือนพาร์ตเนอร์ที่ดีกัน คราวนี้ก็เลยถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของเรา คือเขาทำรีเมกมาหลายประเทศแล้วด้วย ผลตอบรับดี

เรื่องนี้ไปประเทศไหนก็ได้รางวัลหมดเลย ?
นี่คือกดดัน ตรงนี้กดดันละ (หัวเราะ) จะพยายาม เพราะทุกคนก็ถือว่าทำการบ้านกันอย่างหนักหน่วง ผู้กำกับทั้ง 2 ท่านก็เต็มที่ คิดว่าในเวอร์ชั่นแบบของเราก็จะพยายามให้ดีที่สุด





เตรียมรับมือกับความเครียดมากไหม เพราะบทเราเครียดทั้งเรื่องเลย ?
เครียดจริงๆ ค่ะ คือแบบว่า เป็นซีนอารมณ์จริงๆ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้รักน้องมาก แต่ในเรื่องก็มีหลากหลายความรู้สึกที่จะพัฒนาต่อไป มันก็ใช้ความเข้าใจเยอะพอสมควร

ใส่ซัพพอร์ตที่เท้า ?
ซุ่มซ่ามค่ะ แพนเดินเตะเก้าอี้ค่ะ (หัวเราะ) เมื่อคืนนี้เอง แล้วมันบวมและระบมอยู่จนใส่รองเท้าเข้าไปไม่ได้ วันนี้เลยต้องใส่รองเท้ากึ่งสลิปเปอร์นิดหนึ่ง

หลายคนนึกว่าเป็นเพราะเราไปเดินแบบมา ?
ไม่ค่ะ ทำตัวเองเลยค่ะ ชนเก้าที่เป็นไม้ตรงมุมพอดี มันก็เลยแบบระบมอยู่ ค่อนข้างแรงค่ะ เพราะใจเรามุ่งไปข้างหน้าอย่างเดียวเลย เท้าเลยไปชนกับหัวมุมเก้าอี้ พูดไม่ออกเลย



กระทบกับงานไหม เพราะเราต้องใส่ส้นสูง ?
แพนคิดว่ามันน่าจะหายภายใน 1-2 วันนี้ คิดว่าถ้าหายระบมก็คงจะน่าโอเค มันคงช้ำในอยู่ค่ะ (หัวเราะ) น่าจะช้ำอยู่ข้างใน เดี๋ยวคิดว่าพรุ่งนี้จะดีขึ้น จริงๆ ควรประคบน้ำแข็ง แต่ตอนนี้ไม่รู้จะทันไหม เพราะผ่านมาทั้งคืนแล้ว

มีงานที่ต้องใส่ส้นสูงในช่วงนี้ไหม ?
ก็มีนะคะ แต่ไม่เป็นไรอาจจะเป็นส้นเตี้ยได้