สาวเล่าระทึก! “เสือโหย” บุกขืนใจ แม่วอนลูกมอบตัว

2020-01-28 17:30:59

 สาวเล่าระทึก! “เสือโหย” บุกขืนใจ  แม่วอนลูกมอบตัว

Advertisement

แม่ “เสือโหย” วอนทั้งน้ำตาให้ลูกชายเข้ามอบตัวอย่าไปก่อเหตุอีก ด้านลูกพี่ลูกน้องผู้เสียหายเล่าเหตุการณ์ เสือโหยพยายามจะข่มขืนแต่รอดมาได้

วันที่ 28 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.จุฑาภรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี  หนึ่งในผู้เสียหาย ที่นายอนุสรณ์ หรือโอ๋ สมบุญ อายุ 32 ปี หรือ"เสือโหย" บุกเข้าบ้านและพยายามข่มขืน แต่ไม่สำเร็จ เล่าว่า ตนกับนายโอ๋ หรือ"เสือโหย" เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ปกติตนเปิดร้านขายของชำ อยู่เยื้องๆ บ้านเช่าของแม่นายโอ๋ พักอยู่เพียงลำพัง กับลูกแมว 1 ตัว ทั้งนี้เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 9 ม.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ตนนอนหลับอยู่ภายในห้องพัก รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ เมื่อพบว่านายโอ๋ ได้บุกเข้ามาอยู่บนที่นอนและใช้อาวุธมีดจี้ที่ลำคอ ตนเอาไว้ ขมขู่ไม่ให้ขัดขืนและส่งเสียงร้อง หากขัดขืนจะเชือดคอทิ้ง พร้อมพยายามจะลวนลามข่มขืน ซึ่งตนพยายามตั้งสติ ร้องขอชีวิตและชวนพูดคุย หลอกล่อเพื่อถ่วงเวลาจนคนร้ายใจอ่อนลง ประกอบกับลูกแมวที่ตนเลี้ยงไว้ส่งเสียงร้อง ตนจึงวางแผนขอไปเอาอาหารให้แมว ก่อนจะวิ่งเปิดประตูหลัง หลบหนีออกมาได้ โดยคนร้ายได้เพียงโทรศัพท์มือถือไป 1 เครื่อง ก่อนนำไปจำนำกับญาติพี่น้องกันเอง ไว้ 1 พันบาท ซึ่งคนรับจำนำไว้ได้นำมาคืนตนภายหลัง ทั้งนี้พนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติหมายศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี เลขที่ 18/2563 ลงวันที่ 25 ม.ค.63 ข้อหากระทำชำเรา บุกรุกเคหะสถานเวลากลางคืน ใช้กำลังขู่เข็ญประทุษร้าย ไว้แล้ว

ทางด้านนางพร สมบุญ อาย 53 ปี พักอยู่ห้องแถวบ้านเช่า ต.บ้านยาง อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นแม่ของนายอนุสรณ์ หรือ "เสือโหย" เปิดเผย ทั้งน้ำตาว่า ทราบข่าวลูกชายแล้ว แต่ด้วยความเป็นแม่ ตอนนี้รู้สึกเป็นห่วงลูกชายมาก เพราะไม่ได้เจอหน้าลูกชายมาประมาณ 3 อาทิตย์แล้ว ตอนนี้ไม่รู้จะตกระกำลำบาก กินอยู่อย่างไรบ้าง ทั้งนี้อยากวิงวอน ขอร้องให้ลูกมอบตัว ยอมรับผิดเหตุการณ์ที่ก่อไว้และเกิดขึ้นทั้งหมด เพราะสำหรับตนมองว่าเป็นเพียงการก่อเหตุลักเล็กขโมยน้อย ไม่ใช้การก่อคดีฆ่าคนตาย ร้ายแรง อย่างที่เป็นข่าวในโลกโซเชียนที่แชร์กัน และข่าวตามที่สื่อเสนอไป ตอนนี้ตนเองและลูกคนอื่นๆ ถูกชาวบ้านในพื้นที่สังคมต่อว่า ต้องอับอาย ไม่เป็นอันทำมาหากินแล้วเช่นกัน




นางพร กล่าวต่อว่า สำหรับนายโอ๋ ลูกชาย เป็นบุตรคนที่สอง บรรดาพี่น้องสามคน เมื่อประมาณ 5 เดือนก่อน หลังพ้นโทษออกมา ก็ได้กลับมาอยู่ในพื้นที่พร้อมภรรยา ซึ่งเป็นคนภาคอีสาน มีอาชีพช่วยกันหาปลา ในพื้นที่ขาย ชีวิตครอบครัวมีความสุขดี จนกระทั่งเมื่อประมาณเดือน ธ.ค. 62 ที่ผ่านมาทางญาติลูกสะใภ้ ได้ติดต่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งตัวลูกสะใภ้กลับบ้านที่ภาคอีสาน สร้างความเศร้าโศกเสียให้แก่ลูกชายเป็นอย่างมาก เพราะรักภรรยาคนดังกล่าวมาก จนไม่มีจิตใจทำงานทำการอะไร จนกลับมาก่อเหตุดังกล่าวอีก

สำหรับนายโอ๋ ลูกชาย ปกติจะพักอยู่อีกหมู่บ้าน แต่จะแวะเวียนมาหาตนเพื่อกินข้าวด้วยกันบ้างอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง ก่อนจะหายไปประมาณ 3อาทิตย์ที่ผ่านมา. และมาทราบข่าวว่าไปก่อเหตุต่างๆไว้ ซึ่งอยากจะวิงวอนถึงลูกชาย ให้มอบตัวโดยเร็ว เพื่อรับโทษที่ก่อไว้ อนาคตพ้นโทษออกมาจะได้ออกมาใช้ชีวิตเหมือนคนอื่นๆตามปกติ ไม่ต้องใช้ชีวิตหลบซ่อนเหมือนตอนนี้ ที่สำคัญตนกลัวลูกชายจะได้รับอันตรายไปกว่านี้