ชาวมุสลิมโรฮีนจาหลายพันคนทิ้งบ้านเรือนตัวเองหลบหนีหลังเกิดความรุนแรง 2 วัน ในรัฐยะไข่ของเมียนมา ซึ่งสถานการณ์กำลังเลวร้ายลงเรื่อยๆ โดยสมาชิกของชนกลุ่มน้อยไร้สัญชาติกลุ่มนี้ พากันหลบหนีข้ามพรมแดนเข้าไปในบังกลาเทศ แต่กองกำลังรักษาดินแดนของบังกลาเทศ ก็ส่งตัวพวกเขากลับเข้าเมียนมาเหมือนเดิม ทั้งนี้ การต่อสู้ปะทุขึ้นเมื่อนักรบโรฮีนจา โจมตีสถานีตำรวจ 30 แห่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และปะทะกันต่อเนื่องถึงวันเสาร์
ขณะเดียวกัน รัฐบาลเมียนมาก็ได้อพยพชาวบ้านที่ไม่ใช่ชาวมุสลิมอย่างน้อย 4,000 คน ท่ามกลางการปะทะกันต่อเนื่องในรัฐยะไข่ โดยการต่อสู้กันอย่างดุเดือดระหว่างทหารรัฐบาลเมียนมา และนักรบโรฮิงญาหลายร้อยคนเกิดขึ้นทั่วรัฐยะไข่ โดยเฉพาะในเมืองหม่องดอว์ เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์นานาชาติหลายสิบคนจากหลายหน่วยงาน ซึ่งประจำอยู่ในเมืองหม่องดอว์ ต้องเผ่นออกจากพื้นที่ขัดแย้ง ไปยังเมืองซิตตเว เมืองเอกของรัฐยะไข่เมื่อวานนี้ เพราะสถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อยๆ
ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตจากความรุนแรงที่ปะทุเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพิ่มเป็น 104 คนแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มหัวรุนแรงชาวโรฮีนจา แต่ก็มีทหาร 12 นาย และพลเรือนอีกหลายคน ขณะที่ ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ ประจำที่พรมแดนเมียนมา-บังกลาเทศ ได้ยินเสียงยิงต่อสู้กันอยู่ในฝั่งเมียนมา
ทั้งนี้ รัฐยะไข่ พื้นที่ยากจนที่สุดในเมียนมา เป็นที่อยู่ของชาวโรฮีนจามากกว่า 1 ล้านคน แต่ชาวโรฮีนจาที่มีแนวความคิดหัวรุนแรง เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากถูกกดขี่ข่มเหง
ภาพ Sam JAHAN / AFP, Emrul Kamal / AFP, Wai Moe / AFP, STR / AFP