ชาวปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์ ตื่นตระหนกหลัง รพ.สวรรค์ประชารักษ์พบผู้ป่วยต้องสงสัยไวรัสโคโรน่า 2 ราย เฝ้าระวังอีก 1 ราย
วันที่ 25 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครสวรรค์ มีรายงานข่าวสร้างความตื่นตระหนกให้คนทั้งจังหวัด เมื่อมีรายงานว่า ทาง รพ.สวรรค์ประชารักษ์ได้กักกันผู้ป่วยต้องสงสัยอาจติดเชื้อไวรัสโคโรนา จำนวน 2 ราย และอีก 1 รายรอการวินิฉัย โดยหนึ่งในผู้ต้องสงสัยนี้ เป็นนักศึกษาชาว จ.อุทัยธานี ได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน แล้วเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมา ก่อนจะเดินทางมาเที่ยวงานเทศกาลตรุษจีนปากน้ำโพพร้อมกับเพื่อนๆ แล้วรู้สึกไม่สบาย จึงเดินทางไปตรวจรักษาที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งในเมือง จ.นครสวรรค์ ก่อนจะถูกส่งตัวมาตรวจวินิฉัย พร้อมกับให้นอนแยกห้องอยู่ที่ รพ.สวรรค์ประชารักษ์
อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงไปยัง รพ.สวรรค์ประชารักษ์ ได้รับข้อมูลในเบื้องต้นว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยที่อยู่ในการวินิจฉัยโรคปอดอักเสบจริง จำนวน 3 ราย โดยรายแรกเป็นชายไทยอายุ 23 ปี เดินทางจากเมืองอู่ฮั่นถึงสนามบินดอนเมืองเมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมา แล้วมีอาการเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว จึงไปพบแพทย์ที่ รพ.เอกชนก่อนที่แพทย์จะส่งตัวมายัง รพ.สวรรค์ประชารักษ์ หลังพบอาการน่าสงสัยติดเชื้อไวรัสโคโรนา เบื้องต้นพบว่า ผู้ป่วยไม่มีไข้ ไม่ไอ ไม่เหนื่อยหอบ ให้นอนห้องแยกโรคเพื่อรอการวินิจฉัย
ส่วนรายที่ 2 เป็นหญิงสาวอายุ 31 ปี ได้เดินทางไปท่องเที่ยวเมืองอู่ฮั่น ในระหว่างวันที่ 18-19 ม.ค. แล้วกลับมาถึงประเทศไทย เกิดมีอาการไอ จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงระหว่างวันที่ 22-24 เกิดมีอาการเป็นไข้ต่ำ จึงได้เดินทางมาตรวจที่ รพ.สวรรค์ประชารักษ์ ซึ่งแพทย์ได้ตรวจอาการแล้ว พบว่า เจ้าตัวมีอาการไอ มีน้ำมูก ไม่เหนื่อยหอบ แต่แพทย์ก็ได้เฝ้าระวังโดยการให้เจ้าตัวพักรักษา โดยให้นอนห้องแยกโรค เพื่อรอการวินิจฉัย รวมถึงได้มีการให้เพื่อนชายวัย 35 ปี ซึ่งทราบว่า ได้เดินทางไปเที่ยวเมืองอู่ฮั่นกับหญิงสาวรายนี้ ให้อยู่นอนที่ รพ.เพื่อรอการวินิจฉัยและสังเกตอาการด้วยเช่นกัน แต่เบื้องต้น ชายคนดังกล่าวยังไม่มีอาการป่วยแต่อย่างใด
สำหรับผู้ป่วยต้องสงสัยทั้ง 2 ราย ได้มีการส่งตัวไปตรวจทางห้องปฏิบัติการที่ ศูนย์โรคติดต่อและโรคอุบัติใหม่สภากาชาดไทย สถาบันบำราศฯ และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขแล้ว ซึ่งจะใช้เวลาในการวินิจฉัยประมาณ 48 ชั่วโมง จึงจะทราบผล จึงขอให้ชาวนครสวรรค์อย่าตื่นตระหนก แต่เพื่อความปลอดภัย ควรสวมใส่หน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง