วันที่ 25 มกราคม ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิฝั่งเกาะพญาไท พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.,พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น.ร่วมกับ พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง ผบก.น.1 และ พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผกก.สน.พญาไท นำข้าราชการตำรวจ ร่วมแจกอั่งเปาตรุษจีนหน้ากากกันฝุ่น pm 2.5 พร้อมติดตั้งเครื่องบำบัดอากาศที่มีมลพิษและฝุ่นละอองจิ๋วจำนวน 4 ตัว มาทดลองใช้เป็นเวลา 15 วัน
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้ประชุมมอบแนวทางแก้ไขปัญหาฝุ่นมลภาวะ 2 ข้อ คือ การบังคับใช้กฎหมาย โดยได้สั่งตั้งจุดตรวจควันวัดรถยนต์รวม 33 จุด รอบพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 09.00น.-18.00น. และการรณรงค์ให้ประชาชนรับรู้ปัญหาร่วมกัน โดยให้โรงพักในเขตกองบัญชาการตำรวจนครบาล จัดบริการตรวจสอบรถยนต์และจักรยานยนต์ทุกชนิด เพื่อลดการสร้างมลภาวะ พร้อมตั้งจุดบริการตรวจวัดควันฟรี 3 จุด และมอบหมายให้กองกำลังอารักขาและควบคุมฝูงชน(อคฝ.) นำรถฉีดน้ำแรงดันสูง 4 คัน เข้าระดมฉีดน้ำตามสถานที่มีมลภาวะสูงในเวลา 04.00-05.00น.และ 14.00-15.00น. เพื่อไม่ให้กระทบการจราจร และเนื่องในวันตรุษจีน ตำรวจจึงมารณรงค์ให้ประชาชนห่วงใยสุขภาพตนเอง โดยนำหน้ากากอนามัยมาแจกจ่ายรอบบริเวณแห่งนี้ ที่มีรถสัญจรเป็นจำนวนมาก
ด้าน พ.อ.ประเสริฐ โชติช่วง ในฐานะผู้ร่วมสร้างเครื่องบำบัดอากาศ กล่าวว่า สำหรับการทำงานของอุปกรณ์ชิ้นนี้ อากาศเสียจะถูกดูดเข้ามาผ่านปล่องด้านบน แล้วปล่อยน้ำมาเป็นตัวจับฝุ่นลงไปเก็บใต้ถังด้านล่าง จากนั้นจะถูกส่งไปยังแทงก์อีกตัวเพื่อสลับค่าความเป็นกรดด่างและบำบัดอากาศ ก่อนจะถูกส่งไปที่ท่อปล่อยโดยมีแผ่นดักน้ำกั้นไว้ แล้วปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมา
พ.อ.ประเสริฐ กล่าวต่อว่า เครื่องมือชิ้นนี้มีเครื่องวัดค่ามลพิษของกรมควบคุมมลพิษเป็นตัวชี้วัด ซึ่งจะติดตั้งรอบบริเวณอนุสาวรีย์ชัยและทดสอบเป็นเวลา 15 วัน โดยใช้กำลังไฟฟ้า 6.5 กิโลวัตต์ มีอัตราการดูด 2 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือ 200 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ส่วนราคาการผลิตตกเครื่องละ 3 แสนบาท ซึ่งกำลังรอการจดสิทธิบัตร หากมีผู้สนใจสั่งซื้อสามารถขอแบบได้ที่มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ และนำไปผลิตเองที่ใดก็ได้
