สงครามคดีจำนำข้าวยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร "อภิสิทธิ์"ชี้เร็วเกินไปจะตัดสินตระกูลชินวัตรสิ้นอิทธิพลทางการเมือง แนะแยกการเมืองออกจากกระบวนการยุติธรรม
เมื่อวันที่ 27 ส.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข้อสงสัยที่หลายฝ่ายตั้งคำถามกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวเมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมาจะถือเป็นการปิดฉากตระกูลชินวัตร ในแวดวงการเมืองหรือไม่ว่า โดยส่วนตัวมองว่ากระบวนการทางคดียังไม่จบสิ้น ศาลยังไม่ได้มีการอ่านคำพิพากษาของคดี อีกทั้งตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ก็ยังเปิดโอกาสให้จำเลยได้มีการยื่นอุทธรณ์ จึงไม่อยากให้มีการตีความที่มากเกินไปในขณะนี้ เนื่องจากอิทธิพลทางการเมืองของตระกูลชินวัตรและกลุ่มมวลชนจำนวนมากที่ให้การสนับสนุนยังมีอยู่จึงเป็นเรื่องที่ตัดสินได้ยากในขณะนี้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ที่สำคัญคือไม่ต้องการให้มีการนำเรื่องของการเมืองและกฎหมายกระบวนการยุติธรรมมาปะปนกัน เพราะกรณีคดีจีทูจีของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์และจำเลยทั้งหมด มีความผิดชัดเจนว่ามีการทุจริต ซึ่งมีที่มาตั้งแต่ระดับนโยบายเป็นสิ่งที่ต้องเร่งทำความเข้าใจกับสังคมว่าจุดเริ่มต้นของคดีดังกล่าวคืออะไร ไม่ใช่กรณีการกีดกันไม่ช่วยชาวนา
ส่วนกรณีที่การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษานั้นจะถือเป็นการไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่สามารถตอบได้ แต่ขอยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือกรณีการพิพากษาการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ศาลพิพากษาให้ยกฟ้องจำเลยทั้งหมดก็ไม่เห็นมีการท้วงติงใดๆ
สำหรับกรณีที่ตัวเองได้มีการสอบถามความคิดเห็นของประชาชนในแอพพลิเคชั่นไลน์นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ได้เป็นการทำโพลแต่เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่สังคมมีความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนและแตกต่างกัน จึงต้องการที่จะสะท้อนว่าคนส่วนใหญ่ในสังคมคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องดังกล่าว