เกิดเหตุคนร้ายขับรถพุ่งชนผู้คนที่สัญจรอยู่บนสะพานเวสต์มินสเตอร์
ใกล้อาคารรัฐสภา ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในเวลาประมาณ 14.40
น.ตามเวลาท้องถิ่นวันพุธ หรือตรงกับ 20.40 น.ตามเวลาในไทย
มีผู้บาดเจ็บเบื้องต้น 20 ราย และเสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย จากนั้น
คนร้ายก็ลงจากรถใช้มีดแทงเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตหนึ่งนาย
ก่อนมือมีดถูกตำรวจยิงใกล้หอนาฬิกาบิ๊กเบนเสียชีวิตตาม
ขณะพยายามที่จะบุกเข้าไปในสนามหญ้านอกอาคารรัฐสภา
ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องปิดพื้นที่บริเวณอาคารรัฐสภา นาน 2 ชั่วโมง
และสถานีรถไฟใต้ดินใกล้รัฐสภาก็ปิดด้วย เจ้าหน้าที่รัฐบาลอังกฤษ ระบุว่า
เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นการก่อการร้าย
ส่วนสมาชิกรัฐสภาถูกบังคับให้อยู่แต่ภายในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ซึ่งกำลังมีการประชุมกัน โดยพวกเขาก็ได้ยินเสียงปืนดังต่อเนื่องด้วย
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็รีบออกไปยังที่เกิดเหตุ ด้านนายกรัฐมนตรีเทเรซา
เมย์ ผู้นำหญิงของอังกฤษ ซึ่งไม่ได้รับอันตรายจากเหตุการณ์ครั้งนี้
และรีบเร่งออกจากอาคารรัฐสภาภายในไม่กี่นาทีภายใต้การคุ้มกันอย่างแน่นหนา
จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมาการฉุกเฉินของรัฐบาล ขณะที่ บี.เจ.แฮร์ริงตัน
ผู้บัญชาการตำรวจกรุงลอนดอน กล่าวว่า ขณะนี้
เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนเรื่องการก่อการร้ายอย่างเต็มที่
มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีตำรวจหลายนาย แต่ในตอนนี้
เจ้าหนี่ยังไม่สามารถยืนยันถึงจำนวนที่แน่ชัดและลักษณะอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บ
ทางเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานต่าง ๆ นานา
รวมถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้รับความช่วยเหลือขึ้นจากแม่น้ำเทมอย่างปลอดภัยท่ามกลางความสับสนอลหม่าน
อังกฤษอยู่ในระดับเฝ้าระวังด้านความปลอดภัยสูงสุดระดับ 2
ซึ่งหมายความว่า มีความเป็นไปได้สูงที่อาจเกิดเหตุโจมตี
และเหตุการณ์รุนแรงเมื่อวันพุธ ก็เกิดขึ้นตรงกับวันครบรอบ 1
ปีเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่สนามบิน และสถานีรถไฟใต้ดินในกรุงบรัสเซลส์
ประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 32 ราย และเหตุการณ์ล่าสุดนี้
เป็นการโจมตีในลักษณะเดียวกับการขับรถยนต์พุ่งชนผู้คนในกรุงเบอร์ลิน
ประเทศเยอรมนี และในเมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศสด้วย แต่การโจมตีครั้งนี้
ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบและยังไม่มีความชัดเจนว่า
คนร้ายที่ก่อเหตุมีมากกว่าหนึ่งคนหรือไม่
เหตุการณ์ร้ายในกรุงลอนดอน
ถือว่าเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีความสำคัญทางการเมือง
และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่สุดของเมือง ทั้งลอนดอนอาย
ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ในกรุงลอนดอน, สะพานเวสต์มินสเตอร์
ทางตอนเหนือสุดของหอนาฬิกาบิ๊กเบนและอาคารรัฐสภา ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญ
2 แห่งในกรุงลอนดอน
แต่นักท่องเที่ยวจำนวนมากติดค้างอยู่บนชิงช้าสวรรค์ลอนดอนอาย นานกว่า 1
ชั่วโมง หลังเหตุโจมตีก่อการร้าย ก่อนได้รับการอพยพลงมา
ส่วนแรงจูงใจของคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้ ยังไม่มีความชัดเจน
แต่มีผู้สังเกตหลายคนบอกว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงครบรอบ 1
ปีที่ผู้ก่อการร้ายบุกโจมตีในกรุงบรัสเซลล์ของเบลเยี่ยมเมื่อวันที่ 22
มีนาคมปี 2559
นายเดวิด ลิดิงตัน ผู้นำสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า
คนร้ายที่ก่อเหตุแทงตำรวจ ได้ถูกยิงเสียชีวิตเช่นกัน ขณะที่
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ถูกสั่งห้ามออกไปนอกสภาในช่วงเกิดเหตุ
และต่อมาสภาได้ระงับการประชุม แต่ที่อาคารรัฐสภา
พบศพผู้เสียชีวิตคนหนึ่งนอนจมกองเลือดอยู่ในบริเวณสนามหญ้า
ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่า เป็นคนร้ายหรือไม่
นายกรัฐมนตรีแบร์นาร์ด คาเซเนิฟ ของฝรั่งเศส
ให้การสนับสนุนอังกฤษอย่างเต็มที่
และให้กำลังใจนักเรียนฝรั่งเศสที่ได้รับบาดเจ็บ
ครอบครัวและเพื่อนนักรียนของพวกเขาด้วย ทั้งนี้ กรุงลอนดอน
ถือว่าเป็นจุดหมายปลายทางของนักเรียนฝรั่งเศสที่เดินทางมาศึกษาต่อจำนวนมาก
ส่วนกระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศส แถลงว่า มีนักเรียนฝรั่งเศส 3
คนจากโรงเรียนเซนต์ โยเซฟ ในเมืองบริตทานี เขตคงคาร์นู ได้รับบาดเจ็บด้วย
ก่อนหน้านี้ กองกำลังรักษาความมั่นคงของอังกฤษ
ได้สกัดกั้นแผนการก่อการร้ายประมาณ 13 ครั้งในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
แต่สหราชอาณาจักรก็รอดพ้นจากการโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติครั้งใหญ่ไปได้หลายครั้ง
ซึ่งอาจเป็นระดับเดียวกับการโจมตีในเบลเยียมและฝรั่งเศส แต่เมื่อปีที่แล้ว
ผู้สนับสนุนขวาจัด ก็ลอบยิง โจ ค็อกซ์ ส.ส.อังกฤษ
ซึ่งเป็นผู้นำในการรณรงค์ให้สหราชอาณาจักรอยู่ในสหภาพยุโรป หรืออียู ต่อไป
แต่ก่อนหน้านั้น คนร้ายได้แทงประชาชน 3 คนที่สถานีรถไฟแห่งหนึ่ง
ทางตะวันออกของกรุงลอนดอน
อ้างว่าเป็นการแก้แค้นที่กองทัพอากาศอังกฤษทิ้งระเบิดโจมตีกลุ่มนักรอบรัฐอิสลาม
หรือไอเอส ในซีเรีย
ทำเนียบขาวประณามการโจมตีในกรุงลอนดอน ขณะที่
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวกับสื่อมวลชนที่ทำเนียบขาวว่า
เขาได้รับฟังสรุปเหตุการณ์ในลอนดอนแล้ว และกำลังติดตามสถานการณ์อยู่
แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใด ๆ ก่อนจะมีการต่อสายตรงพุดคุยกับนางเทเรซา เมย์
นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ด้านนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ
ได้แสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว
นายฌอน สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวเมื่อวันพุธว่า
ทรัมป์ได้พูดคุยกับนางเมย์ และกล่าวว่า
ทำเนียบขาวขอชื่นชมการตอบโต้อย่างรวดเร็วของตำรวจอังกฤษในการรับมือสถานการณ์ดังกล่าว
นายสไปเซอร์ บอกด้วยว่า กรุงลอนดอนและรัฐบาลอังกฤษ
สหรัฐให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
ส่วนกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐ แถลงว่า
ความมั่นคงในสหรัฐยังไม่เปลี่ยนแปลงหลังเกิดเหตุโจมตี
สำหรับเหตุการณ์โจมตีที่น่าตื่นตระหนกที่สุด เกิดขึ้นในปี 2556 เมื่อชาวมุสลิม 2 คนเชื้อสายไนจีเรีย โจมตีลี ลิกบี ทหารอังกฤษ ที่กำลังเดินอยู่บนท้องถนน โดยคนร้ายขับรถชนริกบี และจากนั้นก็ใช้มีดฟันเขาจนเสียชีวิต ซึ่งผู้ที่สัญจรไปมา ได้แต่เฝ้าดูสถานการณ์ด้วยใจระทึก เหตุการณ์โจมตีที่เลวร้ายที่สุดในศตวรรษนี้ ที่กิดขึ้นในช่วงเวลาสงบสุขในอังกฤษ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2548 เมื่อมือระเบิดอัลกออิดะห์ 4 คน ระเบิดฆ่าตัวตายที่สถานีรถไฟใต้ดิน 3 แห่ง และสถานีรถบัสแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน มีผู้เสียชีวิต 52 คน ซึ่งมือระเบิด 3 คน เกิดในอังกฤษ ทั้งหมดมีเชื้อสายปากีสถาน ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นผู้อพยพจากจาไมกา