เจ้าหน้าที่ทางการสเปนเผยเมื่อวันพุธ ว่า มีผู้เสียชีวิตอีก 3 คน จากผลของพายุกลอเรีย ที่พัดกระหน่ำภาคตะวันออกของประเทศ ตลอดระยะ 3 วันที่ผ่านมา ทำให้ล่าสุดจำนวนผู้เสียชีวิตจากภัยธรรมชาติครั้งนี้ เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 8 คน ขณะที่ทางการมีความวิตกมากขึ้นว่า ฝนตกหนักในคืนวันพุธ จากคำทำนายของสำนักงานพยากรณ์อากาศ อาจทำให้แม่น้ำหลายสายเอ่อท่วมล้นฝั่ง รวมถึงแม่น้ำออนยาร์ ที่ไหลผ่าใจกลางเมืองเจโรนา ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
รัฐบาลท้องถิ่นแคว้นบาเลนเซีย เผยว่า ศพของชายคนหนึ่งที่สูญหาย ถูกพบเมื่อวันพุธ ในพื้นที่น้ำท่วม ในเมืองกายอร์ซา ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ และผู้หญิงอีกคนเสียชีวิต เมื่ออพาร์ตเมนต์ที่พักพังถล่มบางส่วน ในเมืองอัลคอย หลังจากฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่
ส่วนที่เมืองนีจาร์ ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ เกษตรกรรายหนึ่งถูกพบเสียชีวิตในโรงเรือนพลาสติก ที่ถูกพายุลูกเห็บถล่ม ผู้เสียชีวิต 5 รายแรกเสียชีวิตระหว่างวันที่ 19 ถึงวันที่ 21 ม.ค. เจ้าหน้าที่ยังคงออกค้นหาผู้สูญหายอีก 3 คน รวมถึงชาวอังกฤษวัย 25 ปี
พายุกลอเรียที่มีกำลังแรงลม 144 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พัดกระหน่ำสเปนอย่างหนักตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 19 ม.ค. พื้นที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่อยู่ทางภาคตะวันออกของประเทศ พายุนำพาลูกเห็บ หิมะ และกระแสลมแรง นอกจากนั้นคลื่นทะเลขนาดมหึมาสูงถึง 13.5 เมตร พัดเข้าหาชายฝั่งของหลายเมืองที่ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน รวมทั้งเกาะมายอร์กาและเกาะเมนอร์กา ที่อยู่นอกชายฝั่ง
ส่วนเมืองโมเรลลา ในจังหวัดคาสเตลลอน ก็ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนเมื่อวันพุธ ประชาชนในเมืองโมเรลลา พยายามทำความสะอาดถนนและกวาดหิมะออกจากรถยนต์และบันไดบ้านหลังหิมะตกหนักติดต่อกัน 2 วัน