“วราวุธ” รุกงดใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วในตลาดสด-ร้านขายของชำ

2020-01-23 12:41:17

“วราวุธ” รุกงดใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วในตลาดสด-ร้านขายของชำ

Advertisement

“วราวุธ” รุกงดใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วในตลาดสด-ร้านขายของชำ ระดมความเห็นเร่งจัดทำกฎหมายจัดการพลาสติก


เมื่อวันที่ 23 ม.ค. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เป็นประธานพิธีเปิดและมอบนโยบายการบริหารจัดการขยะพลาสติกในการประชุมเชิงปฏิบัติการ 4 ภูมิภาคแนวทางการงดใช้ถุงพลาสติกในตลาดสดและร้านขายของชำและแนวทางการจัดทำกฎหมายจัดการขยะพลาสติก ครั้งที่ 1 ณ โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร โดยมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน จากจังหวัดในพื้นที่ภาคกลางเข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ นักกฎหมายนักสิ่งแวดล้อม ผู้แทนห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด ร้านขายของชำ และประชาชนมากกว่า 500 คน


นายวราวุธ กล่าวว่า ปัญหาขยะพลาสติกกลายเป็นวิกฤติสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม เป็นประเด็นสำคัญระดับโลกที่นานาชาติให้ความสำคัญ โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีขยะพลาสติกเกิดขึ้นประมาณ 12 เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณขยะที่เกิดขึ้นทั้งหมดหรือประมาณปีละ 2 ล้านตัน และสามารถนำกลับไปใช้ประโยชน์ได้เพียงเฉลี่ยปีละ 0.5 ล้านตันเท่านั้น รัฐบาลได้ตระหนักถึงปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากขยะพลาสติก กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ได้จัดทำ Roadmap การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561 – 2573 เพื่อใช้เป็นกรอบและทิศทางการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาการจัดการขยะพลาสติกของประเทศ ประกอบด้วย 2 เป้าหมาย เป้าหมายที่ 1 คือ การลด และเลิกใช้พลาสติกเป้าหมาย ด้วยการใช้วัสดุทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยจะดำเนินการกับประเภทและชนิดของพลาสติกที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้และก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งกำหนดการเลิกใช้พลาสติก 3 ชนิด ภายในปี 2562 ได้แก่ 1) พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม 2) ผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ผสมสารอ๊อกโซ่ และ 3) ไมโครบีดส์ และกำหนดเลิกใช้พลาสติก 4 ชนิด ภายในปี 2565 ได้แก่ 1) ถุงพลาสติกหูหิ้วขนาดความหนา น้อยกว่า 36 ไมครอน 2) กล่องโฟมบรรจุอาหาร 3) แก้วพลาสติก (แบบบางใช้ครั้งเดียว) และ 4) หลอดพลาสติก และเป้าหมายที่ 2 มีการนำขยะพลาสติกเป้าหมายกลับมาใช้ประโยชน์ ร้อยละ 100 ภายในปี 2570


“วันนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำลังจะสื่อสารให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศผ่านผู้ประกอบการผ่านเจ้าของธุรกิจ ไม่ใช่เพียงแค่ยกเลิกถุงพลาสติก แต่เป้าหมายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของรัฐบาลชุดนี้คือจะทำอย่างไรที่ทำให้ประเทศไทยนั้น ลดปริมาณขยะลงได้ วันนี้เรากำลังจะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับประเทศไทยเรากำลังจะสร้างอนาคตที่ดีกว่านี้ให้กับลูกหลานของเรา อีก 30 ปีข้างหน้าไป ลูกหลานของเราจะเติบโตในสภาพสิ่งแวดล้อมเช่นไร จะเต็มไปด้วยขยะเต็มไปด้วยพลาสติก หรือลูกหลานของเราจะเติบโตท่ามกลางท้องฟ้าที่สดใสหรือน้ำที่ปลอดขยะ หรือป่าที่เขียวขจี วันนี้เรามาช่วยกัน เพราะปัญหาสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่ของใครคนเดียวเป็นปัญหาของทุกคนที่จะต้องมาช่วยกัน” นายวราวุธ กล่าว


นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ถุงพลาสติกหูหิ้วขนาดบางหรือถุงก๊อบแก๊บ เป็น 1 ใน 7 ชนิดของพลาสติกเป้าหมายที่ต้องเลิกใช้ภายในปี 2565 โดยมีปริมาณการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วในประเทศไทย 45,000 ล้านใบต่อปี ประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อ ร้อยละ 30 ร้านขายของชำ ร้อยละ 30 และตลาดสด ร้อยละ 40 ในปี 2563 ทส.ได้ร่วมมือจากภาคีเครือข่ายภาคธุรกิจเอกชน ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ กว่า 90 ราย ในการงดให้บริการถุงพลาสติกหูหิ้วกับลูกค้า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป พร้อมทั้งยังเสนอแนะแนวทางการปฏิบัติต่างๆ เพื่อให้การดำเนินงานสามารถสำเร็จได้ตามวัตถุประสงค์ เป็นความสำเร็จในระดับประเทศ




นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า จากการติดตามประเมินผลมาตรการงดให้ถุงพลาสติกหูหิ้วใน ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อ ระหว่างวันที่ 2 – 12 ม.ค. 2563 พบว่า ห้างฯ งดให้ถุงพลาสติกหูหิ้วตามนโยบายรัฐ ร้อยละ 91 ยังมีการให้ถุงพลาสติกหูหิ้ว ร้อยละ 9 โดยห้างฯ มีการนำถุงอื่นๆ เช่น ถุงสปันบอนด์ ถุงผ้า ถุงพลาสติกรูปทรงอื่น ถุงพลาสติกมีข้อความรักษ์โลก ถุงกระดาษ มาวางจำหน่ายให้กับลูกค้า สำหรับ Feedback ของลูกค้า ต่อมาตรการงดให้ถุงของห้างฯ พบว่า ให้ความร่วมมือ ร้อยละ 41 เฉยๆ ร้อยละ 55 และไม่ให้ความร่วมมือเพียงร้อยละ 5ดังนั้น เพื่อเป็นการขับเคลื่อนการดำเนินงานการจัดการพลาสติกให้เกิดผลอย่างเป็นระบบครบวงจร ในวันนี้เราจะขอความร่วมมือกับจากผู้ว่าราชการจังหวัดในการขับเคลื่อนการงดใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วขนาดบางหรือถุงก๊อบแก๊บในตลาดสดและร้านขายของชำที่อยู่ในพื้นที่ โดยจัดให้มีตลาดสดต้นแบบที่งดใช้ถุงพลาสติกหูหิ้ว อย่างน้อย จังหวัดละ 1 แห่ง เพื่อเป็นต้นแบบ


นายประลอง กล่าวต่อว่า สำหรับการประชุมเชิงปฏิบัติการ 4 ภูมิภาค แนวทางการงดใช้ถุงพลาสติกในตลาดสดและร้านขายของชำและแนวทางการจัดทำกฎหมายจัดการขยะพลาสติกในครั้งนี้เป็นการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้มีส่วนได้เสียจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง นำไปประกอบการพิจารณาในกระบวนการจัดทำกฎหมายจัดการขยะพลาสติกต่อไป โดยจะระดมความคิดเห็นครั้งที่ 2 ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 ณ จังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 3 ในวันที่ 3 มี.ค. 2563 ณ จ.สุราษฎร์ธานี และครั้งที่ 4 ในวันที่ 23 เม.ย. 2563 ณ จ.ขอนแก่น