ดีเอสไอบุกยึดทรัพย์ “มะนาว” เครือข่ายแชร์แม่มณี

2020-01-22 18:30:40

ดีเอสไอบุกยึดทรัพย์ “มะนาว” เครือข่ายแชร์แม่มณี

Advertisement

ดีเอสไอสนธิกำลังตำรวจภูธรภาค 7 ขยายผลเข้าตรวจค้นและยึดทรัพย์ “มะนาว”ใน จ.ราชบุรี แม่ทีมรายสำคัญคดีแชร์ลูกโซ่ “แม่มณี” รวม 2 ล้าน

เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ดำเนินคดีในความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 กรณีแชร์แม่มณี และรับเป็นคดีพิเศษที่ 150/2562 ซึ่งพนักงานสอบสวน คดีพิเศษได้ส่งสำนวน พร้อมมีความเห็นควรสั่งฟ้องตัวการสำคัญและผู้ใกล้ชิดต่อพนักงานอัยการไปแล้ว นั้น ต่อมากรมสอบสวนคดีพิเศษมีการสอบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเพิ่มเติม ซึ่งมีพฤติการณ์เป็นแม่ทีม แม่สาย และเครือข่ายผู้ชักชวนให้ประชาชนร่วมลงทุน โดยรับเป็นคดีพิเศษที่ 9/2563 ในความผิดเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาขน และการฟอกเงิน

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 9/2563 ตามอนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดราชบุรี ที่ ค.9/2563 ลงวันที่ 21 ม.ค. 2563 เข้าทำการค้นสถานที่เป้าหมาย บ้านเลขที่ 45 หมู่ 2 ต.พิกุลทอง อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของ น.ส.จุฑาทิพย์ นิ่มนวล หรือ มะนาว ผลการตรวจค้น ได้ทำการยึดทรัพย์สินที่สงสัยว่าได้มาจากการกระทำความผิด ได้แก่ สมุดบัญชีธนาคารและสำเนาเอกสารความเคลื่อนไหวทางบัญชีการเงินจำนวนหนึ่ง รถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ จำนวน 1 คัน รถจักรยานยนต์ฮอนด้าพีซีเอ็กซ์ (ป้ายแดง) จำนวน 1 คัน รวมมูลค่าทั้งสิ้น 2 ล้านบาท ซึ่งจะดำเนินการขยายผลตามกฎหมายฟอกเงิน และประมวลรัษฎากรต่อไป การดำเนินการดังกล่าวข้างต้น เป็นการอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน ตามนโยบายของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับปัญหาการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน หรือปัญหาแชร์ลูกโซ่ โดยให้ดำเนินการทางกฎหมายทุกฐานความผิด อาทิ การฟอกเงิน ภาษี และให้ยึดอายัดติดตามทรัพย์ที่ได้ไปจากการกระทำความผิดเพื่อเยียวยาผู้เสียหายต่อไป

ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษมุ่งมั่นในการสืบสวน สอบสวน ป้องกันและปราบปรามกรณีดังกล่าวอย่างจริงจัง เพื่ออำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน โดยหากประชาชนมีเบาะแสในเรื่องดังกล่าว สามารถแจ้งเบาะแสมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือโทรสายด่วน DSI Call Center 1202 (โทร.ฟรีทั่วประเทศ) โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะรักษาข้อมูลของผู้แจ้งเบาะแสเป็นความลับ