“เทพไท” เสนอรัฐบาลออกเป็นพระราชกำหนดเพื่อให้มีการใช้งบประมาณได้ทันต่อเวลา หากเลือกใช้แนวทางอื่นคงเป็นไปได้ยาก
เมื่อวันที่ 22 ม.ค. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีการเสียบบัตรลงมติแทนกันในการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ซึ่งอาจจะทำให้เป็นโมฆะว่า จากกรณีดังกล่าวถ้าเทียบเคียงกับกรณี พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่มีการเสียบบัตรแทนกัน และศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยให้ พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทเป็นโมฆะนั้น จึงอาจทำให้ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ฉบับนี้ สุ่มเสี่ยงที่จะถูกวินิจฉัยว่าเป็นโมฆะได้เช่นกัน ถ้ามี ส.ส.จำนวนหนึ่งยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ซึ่งอาจจะทำให้เป็นปัญหาในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลอย่างมาก จึงจำเป็นต้องหาแนวทางแก้ปัญหาโดยเร่งด่วน เพื่อไม่ให้การบริหารประเทศและการใช้จ่ายงบประมาณของประเทศสะดุดลง แนวทางแก้ปัญหาเป็นไปได้มากที่สุดในขณะนี้ก็คือ รัฐบาลต้องออกเป็นพระราชกำหนดเพื่อให้มีการใช้งบประมาณได้ทันต่อเวลา และเชื่อว่าทุกฝ่ายสามารถยอมรับได้ เพราะมีเหตุผลเพียงพอในการออกเป็นพระราชกำหนด
นายเทพไท กล่าวต่อว่า หากรัฐบาลเลือกใช้แนวทางอื่นคงเป็นไปได้ยาก และการจะให้สภาผู้แทนราษฎรกลับมาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ใหม่ทั้งฉบับอีกครั้งหนึ่ง ก็เป็นเรื่องยาก และเสียเวลามากพอสมควร หรือที่มีการเสนอให้ลงมติใหม่เฉพาะในวาระที่ 3 นั้น ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะข้อเท็จจริงปรากฎชัดว่า มีการเสียบบัตรแทนในวาระ 2หลายๆมาตราด้วย และการลงมติในวาระ3 เป็นการพิจารณาทั้งฉบับ เมื่อการพิจารณาในวาระ 3เป็นโมฆะ ก็ต้องเป็นโมฆะทั้งฉบับด้วย จึงจำเป็นต้องออกเป็นร่างพระราชบัญญัติฉบับใหม่ขึ้นมาทดแทน ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาการใช้จ่ายเงินงบประมาณของประเทศอย่างรวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์ จึงขอเสนอให้รัฐบาลพิจารณาออกเป็นพระราชกำหนดประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ขึ้นมาทดแทนในทันที เมื่อประกาศใช้บังคับแล้วค่อยนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในภายหลัง