ทางการอิหร่านแถลงยอมรับเมื่อวันอังคาร ว่า กองทัพอิหร่านยิงขีปนาวุธผลิตในรัสเซีย 2 ลูก โจมตีเครื่องบินโดยสารของยูเครน เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ซึ่งทำให้เครื่องตก หลังจากเพิ่งบินขึ้นจากสนามบินหลักของกรุงเตหะราน ทำให้ผู้ที่อยู่บนเครื่องเสียชีวิตหมดทั้งลำรวม 176 ศพ
แถลงการณ์ขององค์การบินพลเรือนอิหร่าน หรือ ไอซีเอโอ (ran''s Civil Aviation Organisation) เผยแพร่ทางเว็บไซต์ขององค์การเมื่อคืนวันจันทร์ ระบุว่า รายงานเบื้องต้นพบว่า ขีปนาวุธรุ่น ทีโออาร์-เอ็มวัน (TOR-M1) 2 ลูก ถูกยิงไปที่เครื่องบินโดยสารของยูเครน แต่ผลกระทบจากขีปนาวุธต่ออุบัติเหตุ และการวิเคราะห์ปฏิบัติการ กำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวน
ทีโออาร์-เอ็มวัน เป็นขีปนาวุธพิสัยใกล้แบบพื้นสู่อากาศ ถูกออกแบบเพื่อใช้โจมตีอากาศยานและขีปนาวุธร่อน อิหร่านสั่งซื้อจากรัสเซีย 29 ลูก รวมมูลค่าประมาณ 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีการส่งมอบเมื่อปี พ.ศ. 2560
เครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 737-800 เที่ยวบิน พีเอส 752 สายการบินยูเครน อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์ไลน์ส ของยูเครน เพิ่งบินขึ้นจากท่าอากาศยานนานาชาติอิหม่าม โคห์ไมนี ชานกรุงเตหะราน เมื่อวันที่ 8 ม.ค. เพื่อเดินทางไปยังกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน เมื่อเครื่องประสบอุบัติเหตุตก
ช่วงหลายวันหลังเกิดเหตุ ทางการอิหร่านปฏิเสธว่า ไม่ได้ยิงเครื่องบินลำดังกล่าวตก โดยระบุว่าอาจเกิดจากระบบขัดข้อง หรือไฟไหม้เครื่องยนต์ แต่สุดท้ายก็ออกมายอมรับ และนายพลอากาศจัตวา อามิราลี ฮัจซาเดห์ ผู้บัญชาการกองกำลังอวกาศอิหร่าน ในสังกัดกองกำลังพิมักษ์การปฏิวัติ ได้กล่าวยอมรับเมื่อวันที่ 11 ม.ค. แต่ระบุว่า หน่วยขีปนาวุธอิหร่านกระทำการโดยลำพัง ไม่ใช่คำสั่งจากกองทัพ
แถลงการณ์ของ ไอซีโอเอ ถือเป็นการยืนยันรายงานในหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์ส ของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงคลิปวิดีโอที่ดูเหมือนจะแสดงให้เห็น ขีปนาวุธ 2 ลูกถูกยิงไปที่เที่ยวบินพีเอส 752.