หลังจากที่คุณพ่อสุดหล่อ"เขตต์ ฐานทัพ" โพสต์อินสตาแกรมเล่าถึงเหตุการณ์ที่"น้องดีจ้า" ลูกชายวัย 3 ขวบ โดนเพื่อนที่โรงเรียนแกล้งว่า "ได้แผลกลับบ้านทุกอาทิตย์ ป๊ะป๋าชักเริ่มเครียดแล้ว "จ้าบอกว่าทำเพื่อนไม่ได้" แต่ทำไมเพื่อนทำจ้าได้หว่า ? ตรรกะของเด็กยักษ์จิตใจดีหรือเราต้องสอนลูกว่าใครทำเจ็บต้องให้บทเรียนเขาบ้างน้า....#ไม่มีไรครับเห็นลูกเจ็บแล้วมันขึ้น แค่บ่น ๆ" ล่าสุดเจ้าตัวได้เผยถึงเรื่องนี้ว่า
ถามถึงที่น้องดีจ้าโดนแกล้งที่โรงเรียน?
เช้าเราออกมาทำงานเขายังไม่ตื่น เย็นผมกลับบ้านเขาก็หลับแล้ว เราไม่ได้เห็น ไม่ได้เจอเขาเลย พอดีด้วยความเป็นห่วง พอดีเป็นสองครั้งติด เราเลยมีอารมณ์นิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้อะไร
เหตุการณ์เกิดขึ้นที่โรงเรียนใช่ไหม?
เข้าใจได้ เด็กอยู่ด้วยกันมาก ๆเขาก็เล่นกัน แกล้งกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา เราก็นิดนึง คืออยากให้ลูกรู้จักป้องกันตัวเองมากขึ้น เราก็ถามว่าทำไมถึงยอมให้เพื่อนทำ เขาก็บอกว่าทำเพื่อนไม่ได้ ทำเพื่อนไม่ดี ทั้งที่เพื่อนตัวเล็ก แต่เขาตัวเบ้อเร่อเลย เป็นยักษ์ใหญ่ใจดี ทำเพื่อนไม่ดี แม่เขาก็บอกว่าจ้าเก่ง ผมเลยบอกจ้าไม่ได้เก่ง จ้าเป็นคนดี คือ เราก็ไม่รู้จะพูดอะไรกับเขา ปล่อยให้เป็นคนดีไป(ยิ้ม) ถามว่าเราโกรธไหมคือวันนึงมีรอยหยิกที่แก้ม อีกวันนึงปากแตก ผมเชื่อว่าคนที่เป็นพ่อแม่ทุกคนก็เป็น ผมอาจเป็นคนที่มีคนรู้จัก ระบายอะไรออกไป ก็ทำให้เป็นเรื่องเป็นราว จริงๆก็ไม่มีอะไร โรงเรียนก็ดูแลดี ของแบบนี้เราห้ามไม่ได้ ซึ่งผู้ปกครองเองก็คุยกันอยู่แล้ว แต่เด็กก็ไม่ได้มีปัญหา ผู้ใหญ่อย่าเอามาเป็นเรื่องดีกว่า เขาเล่นกันตีกันเดี๋ยวก็ดีกัน
กลัวเหตุการณ์แบบนี้จะส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจลูกไหม?
ไม่ขนาดนั้น วันนี้อายุแค่ 4 ขวบเอง เขายังไม่ได้คิดอะไร วันๆ เขาจะดูการ์ตูน ดูอะไรไป
เราสอนให้เขาสู้แบบนี้เรากลัวจะไปทำอะไรกับเพื่อนไหม?
เราไม่ได้สอนให้ลูกเราสู้ เราแค่สอนให้เขารู้จักเอาตัวรอด วันนี้แค่ปากแตก วันข้างหน้าเขาโตเป็นผู้ใหญ่ มีหลายคนที่ต้องทำอะไรกับเขามากมาย ที่นี้เขาจะใช้ชีวิตอยู่ยังไง ถ้าวันนึงไม่มีเรา การช่วยตัวเองให้ได้ จำเป็นมาก ซึ่งเขาไม่เข้าใจหรอก แล้วผมก็ไม่ได้สอนให้เขาทำอะไรใคร แค่สอนให้เขาระมัดระวังมากขึ้นเท่านั้น
กลัวว่าเหตุการณ์แบบนี้จะกลับมาอีกไหม?
ข่าวออกไปขนาดนี้ คงไม่น่าจะมีแล้วแหละ ส่วนตัวก็ไม่ได้ตามข่าว แต่ในไอจีผมให้คนมาให้กำลังใจ แซวแบบขำ ๆ มากกว่า ส่วนใหญ่ก็จะบอกว่าแผลลูกผู้ชาย หรือเป็นประสบการณ์ชีวิตบ้าง เป็นเรื่องที่เป็นโจ๊กกันมากกว่า เราแค่ระบายแล้วก็ให้จบแค่นั้น ไม่ได้มีปัญหากับใคร ทั้งหมดทั้งปวงเป็นเรื่องของเด็กครับ ไม่ใช่เรื่องของผู้ใหญ่
เรากับภรรยาไม่ได้คิดที่จะย้ายโรงเรียนให้ลูกใช่ไหม?
แรงไป โรงเรียนเขาดูแลดีอยู่แล้ว เราเลือกโรงเรียนให้ลูก เราต้องมั่นใจแล้วว่าดี แต่สิ่งต่างๆเหล่านี้เกิดขึ้นได้กับทุกครอบครัว เป็นเรื่องของเด็กไม่ใช่เรื่องของผู้ใหญ่ครับ
มีข่าวว่าภรรยานอยด์ที่เราเล่นเลิฟซีนแล้วไม่บอก?
เขาก็แซวเล่นๆ จริงๆแล้วบอก มีเหรอ ที่กล้าจะไม่บอกไม่มีทางครับ มีการคุยตั้งแต่เริ่มต้น ที่เห็นเรื่องนี้และรู้ว่าต้องเล่นเลิฟซีนประมาณนี้
เขาว่ายังไงบ้าง?
ผมว่าเขาคงชิน ที่แน่ๆ เขาคงไม่ดู(หัวเราะ)
เข้าฉากเลิฟซีนแต่ละครั้งต้องคอยโทรรายงานเลยไหม?
ไม่ขนาดนั้น ปกติเขาจะไม่ยุ่งเรื่องการทำงานเลย ไม่ก้าวก่ายแม้แต่นิดเดียว แม้กระทั่งการตัดสินใจการทำงาน เพราะจริง ๆ เป็นแบบนี้ตั้งแต่สมัยเป็นแฟนกัน จนกระทั่งเป็นสามีภรรยา งานที่เป็นส่วนรวมเราก็จะช่วยกันหา ถ้าเป็นงานส่วนตัวของใครก็จะให้เกียรติกัน ยิ่งเป็นงานในวงการบันเทิง ซึ่งผมอยู่วงการมาตั้งแต่ก่อนที่จะรู้จักเขา เพราะฉะนั้นอะไรที่เป็นงานในวงการบันเทิง ส่วนใหญ่จะเป็นผมตัดสินใจ
แต่เลิฟซีนที่เห็นต้องจูบจริง?
เชื่อไหมว่าเล่นละครมา 20 กว่าปี เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ที่ผ่านมาไม่เคยเลยจริง ๆ แต่สมัยนี้โลกเปลี่ยนไปแล้ว ความสมจริงสมจังเป็นส่วนสำคัญ และมีที่มาที่ไป ภาพของการประชาสัมพันธ์อาจจะทำให้คนมองอย่างนั้น แต่ถ้าคนที่ดูละครจริง ๆ จะรู้ว่าละครเรื่องนี้ นี้มีอะไรมากกว่าฉากเลิฟซีน และให้แง่คิดที่ดีครับ
ภรรยาว่ายังไงเล่นเลิฟฟินหนักขนาดนี้?
หนักไหม ไม่รู้เพราะไม่เคยเล่นขนาดนี้ แต่ตอนที่เล่นรู้สึกเขินมาก แต่ต้องแกล้งทำเป็นไม่เขิน มีแต่คนบอกว่าหูแดง(หัวเราะ) แต่ไม่หนักใจนะ ผมว่าหนุ่มๆหลายคนในประเทศคงอิจฉา ผมก็อิจฉาตัวเองอยู่ไม่น้อย ที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับนักแสดงสาวๆสวย ๆ
เราห้ามไม่ให้ภรรยาดูละครไหม?
เหมือนเขาจะเลือกไม่ดูเองครับ จริงๆสมัยนี้หาดูน่าจะตาย ก็ชิลๆไม่ได้ต้องเตรียมรับมืออะไร เพราะเขาก็เข้าใจ ทุกอย่างคือการทำงาน
เรื่องหน้าภรรยาต้องขออ่านบทก่อนไหม?
ไม่ขนาดนั้นครับ
