จำนวนการฆ่าตัวตายในประเทศญี่ปุ่น ในปีที่ผ่านมา ลดลงต่ำสุดในรอบกว่า 40 ปี และยังเป็นการลดลง 10 ปีติดต่อกันด้วย
ข้อมูลเบื้องต้น เผยแพร่โดยกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น เมื่อวันศุกร์ แสดงให้เห็นว่า ในรอบปี พ.ศ. 2562 มีประชาชนในประเทศประชากร 127 ล้านคน ปลิดชีพตนเอง 19,959 ราย ลดลง 881 คนจากปี 2561 หรือคิดเป็นอัตรา 4.2 เปอร์เซนต์ โดยผู้ที่ตัดสินใจกระทำอัตวินิบาตกรรมทั้งหมดของปีที่แล้ว 13,937 คน หรือประมาณ 70 เปอร์เซนต์เป็นผู้ชาย ที่เหลือ 6,022 คนเป็นผู้หญิง
ข้อมูลสุดท้ายจะมีการเผยแพร่ในเดือน มี.ค. ซึ่งคาดว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย หลังจากตำรวจยืนยันการเสียชีวิตที่น่าสงสัยจำนวนมาก ในช่วงหลายเดือนสุดท้าย ว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่ถึงกระนั้น ตัวเลขทั้งหมดคาดว่าจะอยู่ในระดับต่ำสุด นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในปี พ.ศ. 2521
แม้ว่าการกระทำอัตวินิบาตกรรมจะมีประวัติศาสตร์ยาวนานในญี่ปุ่น จากการเป็นแนวทางหลีกหนีความอับอายและเสียเกียรติ และอัตราฆ่าตัวตายของญี่ปุ่นยังคงสูงสุด ในบรรดาประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 ของโลก หรือ กลุ่มจี-7 แต่ความพยายามของรัฐบาลโตเกียว ทำให้อัตราการฆ่าตัวตายในประเทศ ลดลงประมาณ 40 เปอร์เซนต์ ในระยะ 10 ปี
จำนวนการฆ่าตัวตายในญี่ปุ่น ขึ้นสู่จุดสูงสุดในปี พ.ศ. 2546 ที่ 34,427 คน และจำนวนสูงเกิน 30,000 คนต่อปี ระหว่างปี พ.ศ. 2547 - 2554 แต่หลังจากนั้นจำนวนได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง.