จำนวนประชากรจีนคืบผ่านหลัก 1,400 ล้านคนเป็นครั้งแรก เมื่อปีที่แล้ว แม้ว่าอัตราการเกิดของปีที่ผ่านมา จะลดลงต่ำสุด นับตั้งแต่ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อ 70 ปีก่อน ซึ่งจะเป็นความท้าทายในระยะยาวสำหรับรัฐบาล
สำนักข่วเอพี รอยเตอร์และเอเอฟพี รายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (เอ็นบีเอส) เผยแพร่ข้อมูลเมื่อวันศุกร์ ว่า จีนแผ่นดินใหญ่มีประชากร 1,405 ล้านคน เมื่อสิ้นปี พ.ศ. 2562 เพิ่มขึ้น 4.67 ล้านคนจากปี 2561 แต่อัตราเด็กเกิดใหม่ในปีที่แล้ว อยู่ที่ 10.48 คน ต่อทุกๆ 1,000 คน ลดลงเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน และลดลงต่ำสุด นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2504 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของภาวะอดอยากยากแค้นบนแผ่นดินใหญ่ ที่ทำให้ชาวจีนตายเพราะความหิวโหยหลายสิบล้านคน
ส่วนข้อมูลของกระทรวงกิจการพลเรือนจีน ระบุว่า ในปี 2562 จีนมีอัตราการหย่าร้างของสามีภรรยา สูงเป็นสถิติ โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี มีการยื่นขอหย่าขาดทั่วประเทศ 3.1 ล้านคู่ ส่วนการสมรสมียื่นขอจดทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่ 7.1 ล้านคู่
ประชากรสูงอายุของจีนกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สร้างความท้าทายทางด้านนโยบายในระยะยาว สำหรับกลุ่มผู้นำประเทศ ที่ให้คำมั่นจะรับประกันสุขภาพและจ่ายเงินบำนาญแก่ประชาชน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
รัฐบาลจีนยกเลิกนโยบาย "ครอบครัวมีลูกคนเดียว" ในปี พ.ศ. 2559 หลังบังคับใช้มานาน โดยหวังจะพลิกผันแนวโน้ม "สึนามิประชากร" จำนวนพลเมืองสูงวัยมากเกินไป ก่อนบรรลุเป้าหมายการพัฒนา อย่างไรก็ตาม การอนุญาตให้ครอบครัวในชุมชนเมือง สามารถมีลูกคนที่ 2 ได้ แสดงให้เห็นว่าประสบความสำเร็จเพียงเล็กน้อย ท่ามกลางค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ทางด้านที่พักอาศัย อาหาร สุขภาพ และการศึกษา.