“ดูไบ”ปลายทางของ“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”

2017-08-26 01:05:42

“ดูไบ”ปลายทางของ“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”

Advertisement

วันที่ 25 ส.ค. เป็นอีกหนึ่งวันที่หน้าประวัติศาสตร์ของการเมืองไทยต้องจารึกไว้ เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 เบี้ยวนัดฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว โดยทนายความ อ้างว่าได้รับแจ้งจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าป่วยด้วย “โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน” มีอาการวิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรง ไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ จึงขอเลื่อนฟังคำพิพากษาในวันนี้

แต่ศาลพิเคราะห์แล้ว ไม่เชื่อว่าจำเลยเจ็บป่วยจนถึงขนาดมาศาลไม่ได้ พฤติการณ์มีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยหลบหนี จึงให้ออกหมายจับและปรับนายประกันเต็มตามสัญญา พร้อมเลื่อนฟังคำพิพากษาไปเป็นวันที่ 27 ก.ย. เวลา 09.00 น.

น.ส.ยิ่งลักษณ์ผิดนัด อาจจะเป็นเพราะล่วงรู้ชะตากรรมของตัวเอง แต่คนที่มาตามนัด คือ จำเลยในคดีทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) โดยเฉพาะ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ศาลพิพากษาจำคุก 42 ปี นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ โดนจำคุก 36 ปี ส่วนคนอื่น ๆโทษมากน้อยต่างกันไปกรรมใครกรรมมัน โดยศาลได้ยกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวเนื่องจากเป็นช่วงเวลากระชั้นชิดและโทษจำคุกค่อนข้างมาก สรุปว่า นอนคุกสถานเดียว




มีคำถามว่าแล้ว “นารีขี่ม้าขาว” หายไปไหน เพราะการหนีในวันนี้ เท่ากับว่าต่อจากนี้เป็นต้นไป ชีวิตของเธอจะไม่ต่างอะไรกับพี่ชายที่แสนดี “ทักษิณ ชินวัตร”

แหล่งข่าวระดับสูงที่เชื่อถือได้ บอกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เดินทางจาก กทม.โดยรถยนต์ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา ไปยัง จ.สระแก้ว แล้วใช้เส้นทางธรรมชาติข้ามแดนไปยังประเทศกัมพูชา ต่อจากนั้นก็นั่งเครื่องบินส่วนตัวไปยังประเทศสิงคโปร์ มุ่งสู่จุดหมายปลายทาง คือ  ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีพี่ชายรออยู่ที่นั่น



เพื่อความชัวร์ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ หนีคดีไปต่างประเทศจริง สื่อมวลชนได้สอบถามผู้เกี่ยวข้องไล่มาตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. บอกว่า ยังไม่ได้รับรายงาน กำลังสั่งให้ติดตามตัวอยู่

ฝ่าย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ตอบว่า อาจเป็นไปได้ว่าหนีไปแล้วจริง ๆ เพราะมีเส้นทางการหลบหนีหลายเส้นทาง ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยืนยันผ่านสื่อมาโดยตลอดว่า จะไม่หลบหนี ฝ่ายความมั่นคงก็ไม่คาดคิดว่าจะหลบหนี ยืนยันว่าไม่ได้รู้เห็นเป็นใจ หรือ เปิดช่องทางให้หลบหนี เพราะได้ติดตาม และดูแลตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด พร้อมจะตรวจสอบต่อไปว่าใช้เส้นทางใดหลบหนี

ขณะที่ พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) กล่าวว่า ไม่พบประวัติการเดินทางออกนอกประเทศของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ไม่ว่าจะเป็นสนามบิน หรือ ด่านตามแนวชายแดน แต่หากออกนอกประเทศผ่านทางพรมแดนธรรมชาติ ก็ไม่สามารถตรวจสอบได้



แม้ผู้มีอำนาจจะตอบแบบไม่เต็มปากเต็มคำนักว่า ณ บัดนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้หนีไปต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว แต่สื่อมวลชนทุกสำนักได้อ้างแหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคงรายงานตรงกันว่า เธอไม่อยู่ให้จับแล้ว

ชะตาชีวิตของอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย อาจจะจบแบบไม่สวยงามนัก แต่อย่างน้อยเธอก็ยังมีพี่ชายที่แสนดีอยู่เคียงข้างในต่างแดนคอยปกป้องดูแลกันและกันตลอดไป

“...ครั้งโดนเขารังแก ร้องงอแงร้องไห้ พี่คนนี้ยังคอยคุ้มครองคุ้มภัย น้องเอยอย่ากลัวใครเขา สองพี่น้องเดินไป น้องตามพี่ชาย จับมือจูงน้องไป...”