"กมธ.ที่ดิน - กมธ.ความมั่นคงรัฐ" รับประสานระงับข้อพิพาทที่ดินชายแดนสระแก้ว

2020-01-16 18:35:10

"กมธ.ที่ดิน - กมธ.ความมั่นคงรัฐ" รับประสานระงับข้อพิพาทที่ดินชายแดนสระแก้ว

Advertisement

"กมธ.ที่ดิน - กมธ.ความมั่นคงรัฐ" รับประสานระงับข้อพิพาทที่ดินชายแดนสระแก้ว -ประชาชนบางส่วน ค้าน ทบ. ขอต่อายุใช้พื้นที่

เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่รัฐสภา  พล.ท.พงศกร รอดชมภู ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐกิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ประธานคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนชาว จ.สระแก้ว กรณีข้อพิพาทเรื่องที่ดินชายแดนระหว่างประชน กรมป่าป่าไม้ และกองทัพบก

พล.ท.พงศกร กล่าวว่า วันนี้ พ่อแม่พี่น้องชาว จ.สระแก้ว ได้มายื่นหนังสือร้องเรียนกับ กมธ. ซึ่งเป็นกรณีที่คล้ายๆ กับหลายพื้นที่ คือ เป็นความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับภาครัฐ โดยที่ดินชายแดนฝั่งตะวันออก กองทัพบกขอใช้ชั่วคราวเวลา 30 ปี เพื่อความมั่นคง ซึ่งบัดนี้ ได้หมดสัญญาแล้ว แต่ทางกองทัพบกมีความปรารถนาอยากใช้พื้นที่ต่อ แต่ประชาชนในพื้นที่บางส่วนไม่เห็นด้วย ดังนั้น ต้องเปิดพื้นที่ให้มีการเจรจาทำความเข้าใจกัน จึงนำเรื่องมาขอให้ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ ซึ่งมีตนเองเป็นประธาน และ กมธ.การที่ดินซึ่งมีนายพิธา เป็นประธาน ช่วยดูแลในเรื่องนี้ โดยเราจะพยามไกล่เกลี่ย ให้ประโยชน์ตกอยู่กับประชาชนให้สูงที่สุด จะเชิญผู้เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกรมป่าไม้ กองทัพบก มาพูดคุย ซึ่งนี่เป็นช่วงรอยต่อ ต้องระงับยับยั้งการเคลื่อนไหวต่างๆ เริ่มด้วยการพูดคุยให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย 

นายพิธา กล่าวว่า ปัญหาข้อพิพาทของพี่น้องชาวสระแก้ว มีทั้งเรื่องหว่างประชาชนกับกองทัพบก ระหว่างประชาชนกับกรมป่าไม้ จึงเห็นว่ามีความจำเป็น ต้องใช้กลไกรัฐสภาในการพูดคุยแก้ปัญหา ทำกรรมาธิการร่วม เพื่อเสาะหาข้อเท็จจริง ให้เป็นทางออกสำหรับทุกฝ่าย เรื่องที่ดินกับความมั่นคงนั้น วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปจากเมื่อ 30 -50 ปีที่แล้ว ซึ่งเราเคยให้กองทัพเรือใช้เกาะดูแลความมั่นคงทางทะเล ให้กองทัพบกใช้พื้นที่ชายแดนดูแลความมั่นคง แต่วันนี้ บริบทเปลี่ยนไปเยอะ ประชาชนเจอศัตรูรูปแบบใหม่ เป็นศัตรูทางเศรษฐกิจ มีปัญหาสิทธิ์ในที่ดินทำกินมากกว่า จึงอยากใช้พื้นที่รัฐสภาแห่งนี้ช่วยแก้ปัญหา เชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยหาทางออกร่วมกัน