คุมตัว! เสี่ยอู่ซ่อมรถทำแผน เปิดใจติดยาหลอน หลงผิด

2020-01-16 15:00:20

คุมตัว! เสี่ยอู่ซ่อมรถทำแผน เปิดใจติดยาหลอน หลงผิด

Advertisement

นำตัวเสี่ยเจ้าของอู่ซ่อมรถ คลั่งยา ก่อเหตุยิงเสี่ยเจ้าของโรงธูป ทำแผน เปิดใจติดยาหลอนทำให้หลงผิดก่อเหตุไป

จากกรณีที่เมื่อช่วงเช้าวันที่ 16 ม.ค. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ ได้ทำการจับกุมตัวนายเกรียงไกร สุกันทา อายุ 49 ปี เจ้าของอู่ซ่อมรถ ที่เกิดอาการคลั่งยาเสพติดควงอาวุธปืนลูกซอง เดินไปยิงนายสุริยนต์ อาจเมือง อายุ 58 ปี เพื่อนบ้านเจ้าของโรงงานธูปเทียนจนได้รับบาดเจ็บสาหัสหลังเกิดเหตุนายเกรียงไกร ได้หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักนานเกือบ 14 ชั่วโมงกระทั่งกลางดึกที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดล้อมพื้นที่บ้านพักของนายเกรียงไกร แต่นายเกรียงไกร ก็พยายามปิดประตูเพื่อหลบหนีและเจอกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้เปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทางเจ้าหน้าที่ก็ยิงตอบโต้เกิดการปะทะกัน แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บใดๆ จนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่นำภรรยาของนายเกรียงไกร มากล่อมให้มอบตัวและสามารถจับกุมตัวไว้ได้ก่อนนำตัวไปสงบสติอารมณ์ที่ สภ.สารภี

ต่อมาเวลา 11.30 น.ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายเกรียงไกร ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่โรงงานทำธูปเทียนของนายสุริยนต์ ผู้บาดเจ็บ รวมถึงตอนที่มีการหลบหนีกลับเข้ามาที่บ้านพัก และตอนขณะยิงต่อสู้เข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ




พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภจว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า การปิดล้อมและจับกุมครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามยุทธวิถีเพื่อลดการสูญเสีย โดยใช้วิธีการละมุนละม่อมเนื่องจากผู้ต้องหาไม่ได้มีนิสัยที่วู่วาม ดังนั้นจึงใช้ภรรยาให้เข้ามาเจรจา จนมีการยอมมอบตัว และจากการตรวจสอบภายในบ้านก็พบอาวุธปืน .38 หนึ่งกระบอก และอาวุธปืนลูกซองสั้น 1 กระบอก ขณะที่เมื่อคืนที่มีการยิงสวนกัน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเป็นการตกใจของผู้ต้องหามากกว่าซึ่งเขากำลังอาจคิดหนี พอเปิดประตูเห็นตำรวจเลยตกใจและได้ยิงใส่ตำรวจ

สำหรับเพื่อนบ้านที่ถูกคนร้ายยิงนั้น อาการล่าสุดยังสาหัสและรักษาตัวอยู่ห้องไอซียู รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ เบื้องต้นตำรวจตั้งได้ตั้งข้อหาพยายามฆ่า ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต สำหรับเรื่องที่ผู้ต้องหาเมายาเสพติดนั้นตอนนี้กำลังรอผลตรวจจากทางการแพทย์ยืนยันและจะมีการแจ้งข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1(ยาบ้า) อีกข้อหาหนึ่งต่อไป สำหรับขบวนการค้ายาเสพติดที่ระบาดในหมู่บ้านแห่งนี้ตนก็จะกำชับให้มีการระดมกำลังกวาดล้างจับกุมต่อไป



ด้านนายเกรียงไกร ก็กล่าวยอมรับว่า เสียใจในสิ่งที่ทำลงไป และขอโทษต่อผู้บาดเจ็บด้วย โดยตนเองนั้นหลังจากที่รับการบำบัดมาแล้วก็เป็นโรคหวาดระแวง ใครขับรถมาใกล้บ้านก็กลัวว่าจะมาทำร้าย จึงหันมาเสพยาบ้าอีกรอบ จนเมื่อวานก่อนเกิดเหตุก็เสพยาบ้า 1 เม็ดโดยซื้อมาจากพ่อค้ายาในหมู่บ้านเม็ดละ 100 บาท พอเสพไปแล้ว ก็เกิดหลอนทะเลาะกับภรรยา และตนก็แค้นเพื่อนบ้านมากเพราะก่อนที่ตนจะถูกตำรวจจับหลายครั้งในข้อหาเสพยา ทุกครั้งตำรวจจะแวะที่บ้านเพื่อนบ้านก่อน และค่อยมาจับตนเอง ตนจึงเชื่อว่าเป็นเพื่อนบ้านที่เป็นคนแจ้งเบาะแสให้มาจับ ตนจึงไปสางแค้นที่คั่งค้างมานาน จากนั้นตนก็กลับมาที่บ้าน เดิมทีคิดจะหนี พอเปิดประตูบ้านออกมาก็เจอตำรวจยืนตรงประตู ด้วยความตกใจกลัวตำรวจจะมาทำร้ายตนเอง ตนจึงใช้อาวุธปืนลูกซองยิงใส่ 1 นัดเพื่อไม่ให้ใครเข้าใกล้ ตอนนั้นตำรวจก็ยิงใส่ตนเอง ด้วยความตกใจ ตนจึงทำปืนลูกซองสั้น หล่นบริเวณหน้าบ้าน จากนั้นตนก็ปิดบ้านและนอนหลับ และคิดว่าพอตื่นนอนจะมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พอเช้าตรู่ ภรรยาก็มาพูดขอให้ตนมอบตัว ตนก็ออกมามอบตัว พร้อมรับความผิดที่กระทำลงไป