ต้องรับผิดชอบ "แคทรียา อิงลิช" เผยสุขภาพทรุดเรื่องส่วนตัว หน้าที่คือทำงาน

2020-01-16 12:30:21

ต้องรับผิดชอบ "แคทรียา อิงลิช" เผยสุขภาพทรุดเรื่องส่วนตัว หน้าที่คือทำงาน

Advertisement

โหมงานหนักจนทำเอานักแสดงสาว "แคทรียา อิงลิช" ถึงกับต้องขอเบรกกองถ่ายละครเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นการด่วน หลังมีอาการป่วยเป็นหวัดจนร่างกายไปไม่ไหว ล่าสุด เจอเจ้าตัวเลยขออัพเดตเรื่องสุขภาพได้ความว่า

ถ่ายละครหนักจนล้มป่วย ต้องเข้าโรงพยาบาล
พอดีว่าป่วยตั้งแต่ก่อนปีใหม่แล้ว มันก็จะเป็นหวัด มันไม่ได้ฟื้นซะทีเดียว พอกลับมาจากปีใหม่ปุ๊บ ถ่ายละครหนักมาตลอด ถ่ายอยู่ 3 เรื่อง เปิดปีใหม่ปุ๊บเข้าฉากหนักเลยตั้งแต่เช้า ทั้งกรี๊ด สติแตก ร้องไห้ ตั้งแต่เช้า ไม่ไหวแล้วนี่เป็นการทำงานครั้งแรกในรอบ 30 กว่าปีที่ขอพักกอง รู้แล้วว่าถ้าถ่ายต่อไม่ไหวแน่นอน เพราะเราเกรงรู้สึกไม่ดี มันไม่ไหวแล้ว เราเลยบอกทีมงานขอพักหน่อย เพราะไม่ไหวแล้ว พักแป๊บนึง แล้วก็เริ่มถ่ายฉากเบาๆ แล้วช่วงพักเที่ยงขอออกไปฉีดยาแว๊บนึง ไม่ไหวแล้วไข้ขึ้น กลับมาก็ถ่ายต่อเลย วันนั้นถ่าย 30 กว่าฉาก เราก็บอกขอแบ่งดูฉากไหนที่หนักๆ ขอเว้นบ้าง เป็นฉากเบาๆ บ้าง ให้มันมีช่องว่างบ้าง ให้มีเวลาหายใจบ้าง ก็ถ่ายจนถึง 4 ทุ่ม ก็น็อกเข้าโรงพยาบาลต่อ





อาการเริ่มแรกเป็นอย่างไร ?
มันเริ่มจากปวดหัวมาก เป็นไมเกรน รู้ว่าถ้าหนักกว่านี้กลัวร่างช็อก เพราะเราใช้พลังเยอะมาก โดยที่เราไม่รู้ตัว อย่างเมื่อวานนี้ถ่ายฉากที่ทะเลาะกับหยาด เราใช้พลังเยอะไม่รู้ตัว ทั้งเตะ ตบ ใส่อารมณ์เต็ม เราเบาไม่ได้เพราะมันจะดูไม่จริง ถ่ายไปถ่ายมาเขาไม่คัตสักที จนเราต้องสั่งคัตเอง บอกว่าหนูไม่ไหวแล้ว เพราะว่าตัวสั่นไปหมด ทำไมมันรู้สึกเวียนหัว มันหมุนไปหมด ขอพักสักแป๊บนึง ขอผลไม้ ขออะไรหวานๆ สักหน่อย คือใช้พลังเยอะจนไม่รู้ตัว ผู้กำกับบอกว่าแคทตลกดีเนอะ เวลาป่วยก็นั่งทำหน้าเหนื่อยๆ แต่พอเข้าฉากปุ๊บเต็มที่ พอคัตไม่ไหว คืนนั้นแอดมิดไปให้น้ำเกลือ ให้ยาฆ่าเชื้อ ไปนอนมา 1 คืน แล้วก็ต้องขอหมอออก เพราะว่าต้องถ่ายละคร 3 เรื่องด้วย คุณหมอบอกว่าร่างกายช็อก ทำงานหนัก ใช้พลังเยอะมากๆ เครียดเพราะว่าฉากมันต้องกรี๊ด ต้องสติแตก มันเครียดซะจนร่างกายรับไม่ไหว






กลัวจะเป็นร้ายแรงกว่านี้ไหม ?
เราก็พยายามเบาๆ ลง ผู้กำกับก็ช่วย เพื่อนๆ ทีมงานที่อยู่ด้วยกัน พอรู้ว่ามันเป็นฉากอะไรที่หนัก ผู้กำกับจะเข้ามาพยายามเล่นด้วย พยายามดึงจิตออกมา ไม่ให้เราเศร้า เครียด ไม่อย่างงั้นมันจะดิ่งไปเรื่อยๆ



ได้ยินมาว่าเราอินกับบทละครมาก จนถึงขั้นต้องเข้าพบจิตแพทย์ ?
เพิ่งได้กลับไปคุย วันแรกที่เปิดกล้องไม่ทันตั้งตัว ไม่รู้ว่าจะต้องเล่นหนักขนาดนั้น วันแรกสติแตก กรี๊ด โยนของ ไม่เคยเล่นบทแบบนี้ ถ้าเล่นจะนิ่งๆ ใช้อินเนอร์อย่างเดียว แต่นี้ใช้ทั้งร่างกาย รู้เลยว่าจิตตกมาก แล้วถ่ายทั้งวันจนถึงดึก พอดึกๆ กดหาจิตแพทย์เลยไม่ไหว รู้ว่ารับไม่ทัน คุยเกือบ 2 ชั่วโมง คือมันกะทันหัน เราไม่ได้เตรียมตัวไปก่อน มันตั้งรับไม่ทัน คือถ้าเราเตรียมตัวไปก่อน เราจะได้รับมือได้ ระงับจิตใจได้ว่าอย่าดิ่งนะ



สู้ไม่ถอยใช่ไหม ?
ใช่ค่ะ ยังไงก็สู้ มันคืองานของเรา ความรับผิดชอบของเรา การที่เราเป็นนักแสดงจะมาบอกว่า อันนี้หนักเกินไปไม่ไหว ถ้าอย่างนั้นเราไม่ใช่มืออาชีพแล้ว เขาจ้างให้เรามารับงานตรงนี้ เราต้องรับผิดชอบ และต้องดูแลตัวเองให้ได้ นี่มันเป็นเรื่องส่วนตัวที่เราต้องดูแลตัวเอง เพราะฉะนั้นเราจะทำยังไงก็ได้ ที่ทำให้เราทำงานต่อไปได้



หลังจากจบเรื่องนี้จะยังไงต่อ ?
ขอพักค่ะ จริงๆ 3 เรื่องนี้ที่รับเล่น เรือนสายสวาท หนักสุด แต่อีก 2 เรื่องก็ค่อนข้างจะหนักอยู่

แต่เรื่อง ทะเลแปร ฉากเลิฟซีนก็หนักอยู่เหมือนกัน ?
ใช่ค่ะ (หัวเราะ) มีอยู่แค่นั้น ฉากอาบน้ำ ฮอตที่สุดแล้วเท่าที่เคยเล่นมา(หัวเราะ) แต่ก็มีแค่นั้น ณ เวลานี้ เท่าที่อ่านบทนะ ไม่รู้ว่าต่อไปจะมีไหม เพราะว่าบทยังมาไม่ครบค่ะ ต้องอ่านต่อว่ามีอีกไหม แต่คงไม่มีมากกว่านี้แล้วค่ะ





นอกจากเครียดเรื่องบทแล้ว ยังเครียดเรื่องเอวใหญ่ขึ้นด้วย ?
น้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ คือช่วงที่ป่วย พอทานยามันทำให้หิว เลยแบบอะไรอ่ะ แต่ก็ควบคุมได้ แต่ ณ เวลานี้เราเอาจิตของเราก่อนดีกว่า ถ้าเราจะเครียดเรื่องอื่นมาก เดี๋ยวจะไปกันใหญ่ ถามว่าเพิ่มมาเยอะไหม หนึ่งนิ้ว แค่นิ้วหนึ่งก็เครียดแล้ว (หัวเราะ) แต่ไม่มาก น้ำหนักขึ้นมา 4 กิโลฯ เยอะอยู่นะ แต่ก็ลงๆ ขึ้นๆ คืออาหารในกองถ่ายอร่อย แล้วเขาก็มีอาหารมาให้กินตลอด แต่ว่าถ้ามีความรู้สึกว่าขึ้นแล้วก็ควบคุม ดูแลมากขึ้น