ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก “บุญทรง เตริยาภิรมย์” 42 ปี ส่วน “ภูมิ สาระผล”โดน 36 ปี พร้อมสั่ง “บริษัทสยามอินดิก้า-เสี่ยเปี๋ยง-นิมล”ชดใช้ค่าเสียหายแก่กระทรวงการคลัง 16,912 ล้านบาท ยกฟ้องจำเลยที่ 19 และ 22-29
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 25 ส.ค. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดฟังคำพิพากษาคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทย์ยื่นฟ้องนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ กับพวกรวม 28 คน คดีทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) โดยพิพากษาจำเลยที่ 1 ถึง 21 ยกเว้นจำเลยที่ 3 และ 16 ซึ่งหลบหนี มีความผิดตามฟ้องโดยให้จำคุกนายภูมิ 36 ปี นายบุญทรง 42 ปี นายมนัส 40 ปี นายทิฆัมพร 32 ปี นายอัครพงศ์ 24 ปี นายอภิชาติ 48 ปี ส่วนจำเลยอื่นศาลลงโทษจำคุกลดหลั่นลงตามพฤติการความร้ายแรงแห่งการกระทำความผิด และพิพากษาให้บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด จำเลยที่ 10 นายอภิชาติ หรือ เสี่ยเปี๋ยง จันทร์สกุลพร จำเลยที่ 14 นายนิมล หรือโจ รักดี จำเลยที่ 15 ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่กระทรวงการคลัง 16,912,128,272.66 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งนับแต่วันที่รับมอบข้าวตามสัญญาแต่ละฉบับ จำเลยอื่นให้รับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามส่วนเช่นเดียวกัน ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 19 และจำเลยที่ 22 ถึง 28
ภายหลังศาลมีคำพิพากษาเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัวนายภูมิ สาระผล นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ และจำเลยอื่น ๆที่ศาลตัดสินให้จำคุก เดินทางไปฝากขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ และทัณฑสถานหญิงกลาง โดยใช้รถควบคุมผู้ต้องขัง และรถตู้จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ 2 คัน โดยนายภูมิเดินนำหน้าซึ่งยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้ม ขณะที่นายบุญทรงได้เดินตามมามีสีหน้าที่เศร้าเดินคอตกขึ้นไปบนรถ และมีจำเลยบางส่วนที่เป็นผู้หญิงได้ร้องไห้ระหว่างถูกควบคุมตัวขึ้นรถด้วย
ด้านนายนรินทร์ สมนึก ทนายความของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ล่าสุดศาลได้ยกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวหรือประกันตัวนายบุญทรงและจำเลยทั้งหมดเนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่กระชั้นชิดและมีโทษจำคุกค่อนข้างมากอย่างไรก็ดีหลังจากนี้ทีมทนายเตรียมยื่นอุทธรณ์ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่สามารถยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาได้ภายใน 30 วัน ทั้งนี้ภายหลังได้รับฟังคำพิพากษาแล้วมีโอกาสพูดคุยกับนายบุญทรงเล็กน้อย โดยนายบุญทรงบอกแต่เพียงว่าให้ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไปซึ่งขณะนี้นายบุญทรงยังไม่ทราบว่าศาลยกคำร้องปล่อยตัวชั่วคราว และในวันนี้ยังคงไม่สามารถเดินทางไปหานายบุญทรงที่เรือนจำได้เนื่องจากหมดเวลาเยี่ยม
สำหรับจำเลยคดีนี้มีจำนวน 28 คน ดังนี้
จำเลยที่ 1 นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว
จำเลยที่ 2 นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว
จำเลยที่ 3 พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตผู้ช่วยเลขานุการและอดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ จำเลยที่ 3 (หนีคดีศาลออกหมายจับ จำหน่ายคดีออกจากสารบบความชั่วคราว)
จำเลยที่ 4 นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ
จำเลยที่ 5 นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีต ผอ.สำนักการค้าข้าวต่างประเทศ และอดีตรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ
จำเลยที่ 6 นายอัครพงศ์ ช่วยเกลี้ยง หรือ ทีปวัชระ อดีตเลขานุการกรมการค้าต่างประเทศและอดีต ผอ.สำนักการค้าข้าวต่างประเทศ
จำเลยที่ 7 นายสมคิด เอื้อนสุภา
จำเลยที่ 8 นายรัฐนิธ โสจิระกุล
จำเลยที่ 9 นายลิตร พอใจ
จำเลยที่ 10 บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด
จำเลยที่ 11 น.ส.รัตนา แซ่เฮ้ง
จำเลยที่ 12 น.ส.เรืองวัน เลิศศลารักษ์
จำเลยที่ 13 น.ส.สุทธิดา หรือ สุธิดา ผลดี หรือ จันทะเอ
จำเลยที่ 14 นายอภิชาติ หรือ เสี่ยเปี๋ยง จันทร์สกุลพร
จำเลยที่ 15 นายนิมล หรือโจ รักดี จำเลยที่ 15
จำเลยที่ 16 นายสุธี เชื่อมไธสง จำเลยที่ 16 (หนีคดีศาลออกหมายจับ จำหน่ายคดีออกจากสารบบความชั่วคราว)
จำเลยที่ 17 นางสุนีย์ จันทร์สกุล
จำเลยที่ 18 นายกฤษณะ สุระมนต์
จำเลยที่ 19 นายสมยศ คุณจักร
จำเลยที่ 20 บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด หรือ บริษัท สิราลัย จำกัด
จำเลยที่ 21 น.ส.ธันยพร จันทร์สกุลพร
จำเลยที่ 22 ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงสีกิจทวียโสธร
จำเลยที่ 23 นายทวี อาจสมรรถ หุ้นส่วนผู้จัดการ
จำเลยที่ 24 บริษัท กิจทวียโสธรไรซ์ จำกัดโดยนายทวี อาจสมรรถ กรรมการ
จำเลยที่ 25 บริษัท เค.เอ็ม.ซี. อินเตอร์ไรซ์ (2002) จำกัด
จำเลยที่ 26 นายปกรณ์ ลีศิริกุล กรรมการบริษัท
จำเลยที่ 27 บริษัท เจียเม้ง จำกัด
จำเลยที่ 28 นางประพิศ มานะธัญญา กรรมการบริษัท