ภูเขาไฟ ตาอัล เป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่อันตรายที่สุดของฟิลิปปินส์ ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ภูเขาไฟลูกนี้เริ่มพ่นลาวา, ทำให้เกิดแผ่นดินไหว และปล่อยกลุ่มควันและเถ้าถ่านปริมาณมหาศาลกระจายไปทั่วเกาะลูซอน และในพื้นที่ห่างไกลออกไป นักวิเทยาศาสตร์ กลัวว่า “การปะทุที่อันตราย” ที่รุนแรงกว่านี้ จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่วันนี้ และจากการเปิดเผยของเรนาโต โซลีดัม หัวหน้าสำนักงานภูเขาไฟและธรณีวิทยาของฟิลิปปินส์ บอกว่า มันเป็นภูเขาไฟที่มีขนาดเล็กมาก แต่ก็เล็กพริกขี้หนู เพราะเป็นภูเขาไฟที่อันตรายมากลูกหนึ่ง
มีรายงานว่า ภายในช่วง 200-300 ปีที่ผ่านมา ภูเขาไฟลูกนี้ปะทุแล้วอย่างน้อย 35 ครั้ง ครั้งรุนแรงที่สุดเกิดขึ้นในปี 2520 แต่ครั้งที่ระเบิด “รุนแรงมาก” ต้องย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2454 มีการพ่นเศษหินและเถ้าถ่านต่าง ๆ ออกจากปากปล่อง ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,300 คน จากการรายงานของสำนักข่าวแร็ปเปลอร์
ภูเขาไฟตาอัล มีประวัติการปะทุหลายครั้ง ซึ่งสร้างผลกระทบรุนแรงต่อพื้นดินในรูปของลาวา และเป็นพิษปนเปื้อนอยู่ในอากาศผ่านเขม่าควันและเถ้าถ่าน นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิด “คลื่นสึนามิภูเขาไฟ” จากการระเบิด ซึ่งจะทำให้เกิดคลื่นยักษ์ในทะเลสาบได้ ส่งผลให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ ต้องสั่งอพยพประชาชนหลายล้านคน เนื่องจากคำนึงถึงความรุนแรงที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ซึ่งจนถึงวันอังคาร มีประชาชนเกือบ 20,000 คน จากจังหวัดบาตังกัสและคาบีเต ไปอยู่ในศูนย์อพยพชั่วคราว 118 แห่งที่รัฐบาลจัดเตรียมไว้รองรับผู้ประสบภัยครั้งนี้ และจำนวนผู้อพยพเชื่อว่าสูงกว่านี้มาก เพราะบางคนเลือกเดินทางไปพักอาศัยอยู่กับญาติพี่น้องและสมาชิกในครอบครัวในเมืองอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กล่าวว่า มีประชาชนจำนวนมากเริ่มเดินทางกลับเข้าบ้านที่อยู่ใกล้กับภูเขาไฟเพื่อไปดูเรือกสวนไร่นา, ปศุสัตว์ หรือไปเก็บทรัพย์สินส่วนตัว
เจ้าหน้าที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ต้องออกมาเรียกร้องให้ประชาชนอย่าเพิ่งเดินทางกลับเข้าบ้านในพื้นที่อันตรายใกล้ภูเขาไฟ ตาอัล เพราะภูเขาไฟลูกนี้ยังพ่นกลุ่มควันและเถ้าถ่าน พร้อมธารลาวาออกมา และยังเกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง โดยภูเขาไฟ ตาอัล ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงมะนิลา เมืองหลวงฟิลิปปินส์ ไปทางใต้ประมาณ 37 ไมล์ หรือ 60 กิโลเมตร เริ่มปะทุเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พ่นเถ้าถ่านขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงกว่า 14 กิโลเมตร และกระตุ้นให้ทางการต้องประกาศเตือนถึงความเป็นไปได้ที่ภูเขาไฟลูกนี้จะระเบิดรุนแรง และสั่งอพยพครั้งใหญ่
ด้านสำนักงานประสานงานด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติ หรือโอซีเอชเอ (OCHA) ระบุว่า มีพื้นที่ 2 แห่งที่อยู่ใกล้กับภูเขาไฟที่น่าเป็นห่วง และยังมีประชาชนประมาณ 459,000 คน อาศัยอยู่ภายในพื้นที่อันตรายภายในรัศมี 14 กิโลเมตรรอบภูเขาไฟ และอีกกว่า 930,000 คน ในรัศมี 17 กิโลเมตร ซึ่งยังเป็นพื้นที่อันตรายเช่นกัน
สถาบันภูเขาไฟและธรณีวิทยาของฟิลิปปินส์ เรียกร้องให้ทุกคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่รัศมี 17 กิโลเมตรรอบภูเขาไฟ อพยพทั้งหมด เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอันตรายจากภูเขาไฟระเบิดกะทันหัน ซึ่งขณะนี้ ในพื้นที่ภูเขาไฟ เกิดแผ่นดินไหวมากถึง 335 ครั้งตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีความรุนแรงตามมาในอีกไม่กี่วันนี้