“สมชัย”เปิดชื่อ 18 พรรคกู้ยืมเงิน

2020-01-14 12:47:31

“สมชัย”เปิดชื่อ 18 พรรคกู้ยืมเงิน

Advertisement

“สมชัย” เปิดเอกสารงบการเงิน 18 พรรคการเมืองกู้ยืมเงิน ถามหาความรับผิดชอบนายทะเบียนพรรคการเมือง-กกต.

เมื่อวันที่ 14 ม.ค. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “สมชัย ศรีสุทธิยากร” ระบุว่า พรรคการเมืองกู้เงินไม่ได้จริงหรือ (ตอนที่ 2) ผมค้างไว้เมื่อวานว่า หากจะยึด พ.ร.ป.พรรคการเมืองใหม่ แล้วบอกว่าพรรคการเมืองไม่สามารถกู้ยืมเงินเพื่อนำมาใช้ในกิจกรรมทางการเมืองได้ตามตรรกะการลงมติของ กกต.ชุดปัจจุบัน พรรคไหนกู้ ถือว่าผิดกฎหมายต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค ต้องตัดสิทธิการเมือง ต้องโทษอาญาจำคุก จะกู้ 1,000 บาท 1 ล้าน หรือ กู้ 100 ล้าน แปลว่า กู้เหมือนกัน เหมือนลอกข้อสอบจะข้อเดียวหรือสิบข้อ จับได้ก็ต้องปรับตกไม่มีข้อยกเว้น 

ถามว่า นอกจากพรรคอนาคตใหม่ยังมีพรรคการเมืองอื่นกู้ยืมเงินอีกหรือไม่ จากเอกสารงบการเงิน ลงวันที่ 31 ธ.ค. 2561 ที่พรรคการเมืองทุกพรรคนำส่ง กกต. ภายในเดือน พ.ค.2562 มีพรรคการเมืองถึง 18 พรรค (รวมอนาคตใหม่) ที่ปรากฏรายการเงินกู้ในเอกสารงบการเงินดังกล่าว

1. พรรคพลังศรัทธา มีรายการเงินกู้ระยะสั้น 300,000 บาท

2. พรรคพลังชาติไทย เงินกู้ระยะสั้น 113,988 บาท

3. พรรคไทยธรรม เงินกู้จากหัวหน้าพรรค 1,000 บาท

4. พรรครวมพลังประชาชาติไทย เงินกู้จากบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกัน 5,000,000 บาท

5. พรรครวมใจไทย เงินกู้ยืมระยะสั้น 45,697.86 บาท

6. พรรคอนาคตใหม่ เงินกู้จากหัวหน้าพรรค 161,200,000 บาท

7. พรรคเพื่อสหกรณ์ไทย เงินกู้ยืมระยะสั้น 226,000 บาท

8. พรรคพลังไทยรักชาติ เงินกู้ยืมหัวหน้าพรรค 85,000 บาท

9. พรรคเมืองไทยของเรา เงินกู้ยืมระยะสั้น 542,750 บาท

10. พรรคเพื่อชีวิตใหม่ เงินกู้ยืมระยะยาว 50,000 บาท

11. พรรคเงินเดือนประชาชน เงินกู้ยืมจากกรรมการ 822,183.70 บาท

12. พรรคไทรักธรรม เงินกู้ยืม กรรมการบริหารพรรค 4,376,000 บาท

13. พรรคพลังประชาธิปไตย เงินยืมจากหัวหน้าพรรค 5,584,290 บาท

14. พรรคครูไทยเพื่อประชาชน เงินกู้ยืม 542,125 บาท 

15. พรรคพลังท้องถิ่นไท เงินกู้ยืมระยะสั้น 1,427,000 บาท 

16. พรรคไทยรักษาชาติ เงินยืมจากหัวหน้าพรรค คณะกรรมการบริหารพรรค 1,738,868.92 บาท

17. พรรคประชาธิปไตยใหม่ เงินกู้ยืมระยะสั้น 4,216,600 บาท

18. พรรคชาติพัฒนา เงินกู้ยืม 2,000,000 บาท

ทั้งหมดนี้ ถือเป็น "ความปรากฏ" ที่นายทะเบียนต้องรับรู้ และหากพบว่าเป็นความผิดต้องชงเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อมีมติดำเนินการ

เหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ที่มีพรรคการเมืองอย่างน้อย 4 พรรค กู้เงิน "ปรากฏ"ในเอกสารงบการเงินปี 2556 และเหตุการณ์ที่มีพรรคอีก 17 พรรค "ปรากฏ"ในเอกสารงบการเงินปี 2561 นั้น มีนายทะเบียนพรรคการเมืองคนละคน หากการกู้ทั้งสองเหตุการณ์เป็นความผิด และมีการปล่อยปละละเลย นายทะเบียนต้องรับผิดชอบเป็นอันดับแรก และกรรมการการเลือกตั้งอาจต้องร่วมรับผิดในฐานะไม่กำกับดูแลงานให้เป็นไปอย่างถูกต้องด้วยกฎหมาย แต่หากบอกว่า ไม่ผิด กรณีชงเรื่อง เงินกู้อนาคตใหม่ ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่อันมิชอบของนายทะเบียนพรรคการเมือง และ กกต. 5 ใน 7 ที่ลงมติส่งฟ้องยุบพรรคต่อศาลรัฐธรรมนูญ คงต้องรับผิดชอบต่อมติที่ตนเองลงด้วยครับ

หมายเหตุ ปี 2557 นายทะเบียนพรรคการเมือง ชื่อ ศุภชัย สมเจริญ ปัจจุบันเป็น รองประธานวุฒิสภา ปี 2562 นายทะเบียนชื่อ จรุงวิทย์ ภุมมา ปัจจุบันเป็นเลขาธิการ กกต. และสำรองสมาชิกวุฒิสภาอันดับที่ 8