แหวกนรกมาปล้น (2) ใครว่าซีซีทีวีไม่สำคัญ

2020-01-13 15:30:31

แหวกนรกมาปล้น (2) ใครว่าซีซีทีวีไม่สำคัญ

Advertisement

ชัดเจนว่าเป็นเส้นขนานแบบอินฟินิตี้ ไม่มีวันบรรจบกันได้ เป็นแบบทางใครทางมัน

"บิ๊กแป๊ะ" พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กับ "บิ๊กต้อย" พล.ต.อ.สุวิระ ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ซึ่งมีมือดีปล่อยคลิปเสียงว่าด้วยเรื่องคดียิงรถเก๋ง "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษ นายกรัฐมนตรี และอดีต ผบช.ตำรวจคนเข้าเมือง ที่ "ว่อน" ทั่วโลกโซเชียล


เมื่อ ผบ.ตร. ลาพักเดินทางไปต่างประเทศ รองสุวิระ ปฏิบัติหน้าที่รักษาการ ผบ.ตร. ก็มีเรื่องให้ต้องไปตรวจสอบติดตามความคืบหน้า กรณีคนลอบยิงรถยนต์ "บิ๊กโจ๊ก" ระหว่างไปนวดย่านสุรวงศ์ ก่อนจะมีคลิป 2 นายพลสนทนาทางโทรศัพท์ ทำนองไม่ต้องเข้าไปยุ่งเพราะ น.1 ซึ่งหมายถึง ผบช.น. รับผิดชอบอยู่แล้ว


ก่อนจะมีคดี "แหวกนรกมาปล้น" พร้อมสังหารผู้บริสุทธิ์ 3 คนที่ลพบุรีให้ต้องไปติดตามแทน พร้อมเปิดแง้ม อาจมีคนที่ 2 ร่วมในการชิงทองและฆ่าคนครั้งนี้ด้วย

ระหว่างที่การติดตามสอบสวนดูจะยังติดๆขัดๆ ขณะที่คนในโลกโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์ทำนองกดดันให้ล่าตัวคนร้ายมาลงโทษเด็ดขาดด้วยการประหารชีวิต เมื่อ "บิ๊กแป๊ะ" กลับจากลาพักและบินด่วนไปที่ลพบุรี ได้ทอลหมายให้ "บิ๊กใหม่" พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ เพื่อนนรต.36 ของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ เป็นคนรับผิดชอบในคดีนี้แทน "บิ๊กต้อย" ทันที

บทบาทด้านหนึ่งที่น่าสนใจของทายาทอดีตอธิบดีกรมตำรวจ พล.ต.อ.แสวง ธีระสวัสดิ์ คือการแจกแจงกับสื่อพร้อมแสดงความมั่นใจว่า คนร้ายไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะทหาร หลังจากในโลกโซเชียลบางส่วนไปไกลถึงขั้นฟันธงว่า ต้องเป็นมืออาชีพ เป็นคนในแวดวงสีเขียว และผ่านการฝึกปรือการใช้อาวุธมาเป็นอย่างดี

ขณะที่ พล.ต.อ.สุวิระ ก็ต้องกลับกรุงเทพฯ ปล่อยให้คนใหม่รับผิดชอบดำเนินการแทน


ประเด็นที่น่าสนใจ แต่ยังไม่มีการพูดถึงกันเท่าใดนัก คือเรื่องกล้องวงจรปิด ทั้งที่เหตุเกิดในย่านใจกลางเมือง บนถนนสายหลักซึ่งเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ ที่จะไม่มีโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิดขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างเทศบาลเมือง หรือ อบต. หรือแม้แต่ของตำรวจ ในเมื่อการติดตั้งซีซีทีวี เป็นโครงการยอดฮิตในทุกพื้นที่

ภาพจากกล้องวงจรปิดที่มีข่าวจากทางตำรวจว่ามีอยู่น้อย แต่ยังไม่มีรายละเอียดว่า หมายถึงจำนวนกล้องทั้งหมดมีอยู่น้อย หรือมีน้อยเฉพาะในเส้นทางการหลบหนี ซึ่งจะสะท้อนความเฉลียวฉลาดของคนร้ายที่ต้องตรวจสอบและดูลาดเลาก่อนลงมือ


แต่ที่แน่ๆ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่จับภาพคนร้ายระหว่างหลบหนี ไม่คมชัดชนิดสามารถเห็นทะเบียนรถได้ นอกจากรูปพรรณและรุ่นของรถจักยานยนต์ที่ใช้ลงมือ

ทำให้หลายคนอดคิดไปไกลไม่ได้ว่า สเป็คของกล้องวงจรปิดที่จัดซื้อเป็นอย่างไร มีกำหนดความคมชัดไว้หรือไม่ อย่างไร ในเมื่อโดยหลักการแล้ว ควรจะต้องมี ไม่ใช่แค่สเป็คต่ำๆ แล้วต้องคอยคลำหาเพิ่มเติม เมื่อมีเหตุเกิดขึ้น

ซึ่งไม่น่าจะเป็นมาตรฐานที่กำหนดไว้

ในทางกลับกัน การรับมือกับคนร้ายที่เชื่อว่าเตรียมการล่วงหน้า ผ่านการวางแผนมาอย่างดี หากเจอกับกล้องวงจรปิดที่มีสเป็คสูง โอกาสจะลอยนวลอย่างในช่วง 5-6 วันที่ผ่านมา คงเป็นไปไม่ได้

ต้องลุ้นกันต่อครับ จะเป็นอย่างไรต่อไป แต่ที่แน่ๆ กล้องวงจรปิดสำคัญอย่างยิ่งในคดีแบบนี้ครับ