“สิระ” เดือด หนุน ตร.จับตายโจรปล้นทองลพบุรี

2020-01-10 14:35:52

“สิระ” เดือด หนุน ตร.จับตายโจรปล้นทองลพบุรี

Advertisement

“สิระ” เดือด หนุน ตร.จับตายโจรปล้นทองลพบุรี เปรียบพฤติกรรมโหดไม่ต่างจาก “สมคิด” หกศพ เผยอนุกมธ.ศึกษากระบวนการยุติธรรม เชิญอธิบดีกรมราชทัณฑ์ แจงความคืบหน้ารื้อระบบลดโทษ พฤหัสฯหน้า ย้ำคดีอุกฉกรรจ์ ต้องไม่ลดโทษหวั่นกลับมาเป็นภัยสังคม

เมื่อวันที่ 10 ม.ค. นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการศึกษากระบวนการยุติธรรม แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากกรณีคนร้ายปล้นร้านทองที่ จ.ลพบุรี พร้อมประนามผู้ก่อเหตุ โดยขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์ก่อเหตุอย่างอุกอาจสะเทือนขวัญคนไทยอย่างยิ่ง และเสนอให้การพิจารณาบทลงโทษจำแนกออกมา ไม่รวมกับผู้ต้องหาคดีทั่วไป เพราะพฤติกรรมโหดเหี้ยม การควบคุมตัวในเรือนจำต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ อย่าให้เกิดเหตุเหมือนกรณีนายสมคิด พุ่มพวง หรือคิดหกศพ ที่ฆ่าคนห้าศพได้รับโทษติดคุกตลอดชีวิต แต่ติดคุกจริงเพียงแค่ 14 ปี ก่อนจะอออกมาก่อเหตุฆาตกรรมซ้ำเป็นรายที่หก

“ผมเห็นว่าคดีปล้นฆ่าที่ลพบุรี ได้ทองไป 28 บาท ฆ่าคนไปสามศพ บาดเจ็บสาหัส 4 ราย ผู้ก่อเหตุไร้จิตสำนึกเลวร้ายกว่าคดีคิดหกศพ ถ้าคนเหล่านี้ยังมีชีวิตอยู่จะเป็นภัยต่อสังคม ถ้ามีการวิสามัญฆาตกรรมผมเชื่อว่าสังคมก็ไม่ติดใจการทำหน้าที่ของตำรวจ แต่แน่นอนว่าการไล่ล่าจับกุมหรือหากมีเหตุที่ต้องนำไปสู่การวิสามัญฆาตกรรม ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด พวกคลั่งสิทธิมนุษยชนไม่ต้องมาโจมตีที่ผมพูดเรื่องนี้ ขอให้ลองคิดว่าถ้าเด็กสองขวบที่ตายเป็นลูกพวกคุณ ยังคิดปกป้องสิทธิมนุษยชนให้ฆาตกรกันอีกหรือเปล่า” นายสิระ กล่าว

ประธานอนุกรรมาธิการศึกษากระบวนการยุติธรรม กล่าวด้วยว่า อยากให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์เร่งรัดการรื้อระบบพักโทษ-ลดโทษให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ไม่ใช่พอคดีคิดหกศพซาลงก็เฉื่อยแฉะไม่กระตือรือร้น เนื่องจากหลักเกณฑ์นี้จะใช้กับคดีอื่น ๆ ด้วย โดยต้องกำหนดมาตรการคุมเข้มในการกลั่นกรองการลดโทษ ควรกำหนดให้ชัดเจนไปเลยว่าคดีประเภทไหน พฤติกรรมก่อคดีลักษณะใด ต้องโทษตั้งแต่กี่ปีขึ้นไปที่จะไม่เข้าเกณฑ์การลดโทษ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุรับโทษทัณฑ์ที่สาสมกับความเหี้ยมโหด ไม่ปล่อยให้อาชญากรใจทรามออกมาเป็นภัยต่อสังคม ซึ่งในวันพฤหัสหน้าจะเชิญอธิบดีกรมราชทัณฑ์มาชี้แจงความคืบหน้าในการดำเนินการเรื่องนี้ด้วย