“ทนายษิทรา”ให้การ ป.ป.ช.ปม “ไบโอเมทริกซ์” อ้างพยาน 13 ปาก นายพล 2 คน นายพัน 10 คน ชั้นประทวน 1 คน ด้าน “บิ๊กโจ๊ก”พร้อมให้การ 10 ม.ค.
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 9 ม.ค. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เข้าให้การต่อ ป.ป.ช.ในฐานะผู้ร้องเรียนเรื่องการทุจริตโครงการไบโอเมทริกซ์ และโครงการรถไฟฟ้าอัจฉริยะของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามที่เคยยื่นเรื่องร้องเรียนไว้เมื่อเดือน พ.ค.2562
นายษิทรา กล่าวว่า นอกจากในวันนี้จะมาให้การแล้ว ยังมีเอกสารเพิ่มเติมมายื่นเป็นเอกสารเกี่ยวกับการใช้งานของระบบไบโอเมทริกซ์ ที่พบความบกพร่องในการใช้งานและได้รับการรายงานปัญหาจากเจ้าหน้าที่ผู้ใช้งานหลายแห่งทั่วประเทศ ซึ่งปัญหาจากการใช้งานที่เกิดขึ้นก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข ในความบกพร่องของระบบไบโอเมทริกซ์ นอกจากนี้ยังไม่เห็นประสิทธิภาพจากการใช้งานในสนามบินสุวรรณภูมิ ตั้งแต่ติดตั้งระบบมา ตามสถิติถึงวันที่ 10 ต.ค.2562 ไม่เคยจับกุมผู้ต้องหาที่ใช้หนังสือเดินทางปลอมและผู้ต้องหาที่ใช้หนังสือเดินทางบุคคลอื่นได้เลย รวมไปถึงการที่มีการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนในการทำข้อกำหนดของผู้ว่าจ้าง (ทีโออาร์) โดยไปเซ็นรับงานก่อนกำหนดที่บริษัทเอกชนจะต้องได้รับการประเมินปริมาณและคุณภาพของงานอีกด้วย มองว่าการขยายสัญญาเป็นการประโยชน์ให้แก่เอกชนจึงอยากให้ ป.ป.ช.สอบสวน ไต่สวนหาข้อมูลเรื่องนี้ให้ปรากฏเป็นที่ชัดเจนแก่สังคม โดยบุคคลที่ถูกร้องเรียนให้สอบสวนว่ากระทำความผิดจริงหรือไม่นั้นเป็นนายตำรวจระดับสูง จำนวน 4 นาย
นายษิทรา เปิดเผยภายหลังจากเข้าให้การกับคณะกรรมการไต่สวน ป.ป.ช.ว่า ในวันนี้ได้อ้างอิงพยานหลักฐานและพยานบุคคลเพิ่มเติมจาก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล รวม 13 คน หนึ่งใน 13 คนนี้ เป็นข้าราชการระดับนายพล 2 คน นายพัน 10 คน และชั้นประทวน 1 คน ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อพยานได้ ซึ่งทาง ป.ป.ช.จะทยอยเรียกสอบปากคำพยาน โดยในวันที่ 10 ม.ค. เวลา 09.30 น. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีต ผบช.สตม.จะเข้าให้การกับ ป.ป.ช. ส่วนกระบวนการสอบสวนไต่สวนของ ป.ป.ช.ขณะนี้ได้มีการรวบรวมเอกสารพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไว้พอสมควรแล้ว จากนี้จะมีการลงพื้นที่สุ่มตรวจการใช้งานของระบบไบโอเมทริกซ์ในแต่ละจังหวัด เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้ฟังคลิปเสียงหลุดแล้วหรือไม่ นายษิทราตอบว่าได้ฟังแล้ว แต่ก็ไม่มีความกังวลใดๆ