"พงศกร" ระบุ “คุณหญิงสุดารัตน์”นัดเจอ ส.ส.เพื่อไทยไม่มีนัยทางการเมือง เป็นการเลี้ยงขอบคุณเลือกตั้งซ่อมขอนแก่น ที่นัดหมายไว้ก่อนแล้ว ชี้แพ้เลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่น ประธานยุทธศาสตร์ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ
เมื่อวันที่ 7 ม.ค. นายพงศกร อรรณนพพร อดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะ ผอ.เลือกตั้งขอนแก่นกล่าวถึงกรณีที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นัดหมายสมาชิกรวมถึงส.ส.เข้าไปพูดคุยในวันนี้ว่า หลังจากมีการเลือกตั้งวันที่ 22 ธ.ค. ที่ จ.ขอนแก่น คุณหญิงสุดารัตน์ ถือเป็นเรี่ยวแรงหลักในการช่วยผู้สมัครหาเสียงเลือกตั้งแข่งกับพรรคฝ่ายรัฐบาล และมีสมาชิกพรรครวมถึง ส.ส.ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงเป็นจำนวนมาก เมื่อเสร็จภารกิจจึงได้นัดหมาย เพื่อเลี้ยงขอบคุณทีมงานและคณะทั้งหมด ที่แสดงน้ำใจช่วยรณรงค์หาเสียง ตอนแรกจะนัดกันช่วงวันขึ้นปีใหม่ แต่เนื่องจาก ส.ส.ต่างมีภารกิจในพื้นที่ กำหนดการจึงถูกเลื่อนออกมา และมาลงตัวในช่วงเวลานี้
"การเดินทางไปวันนี้ไม่ใช่การรวมพลังและไม่มีนัยทางการเมือง พวกที่พูดหรือคิดแบบนี้ คือผู้ประสงค์ร้าย ไม่หวังดีต่อพรรค คนที่พูดและคิดเป็นพวกมองการเมืองแบบเก่า พวกการเมืองน้ำเน่า และไม่ประสงค์ดีต่อพรรคต้องหมดไป"นายพงศกร กล่าว
ส่วนประเด็นที่มองว่า ส.ส.อีสาน ไม่สนับสนุนการทำงานของคุณหญิงสุดารัตน์นั้น นายพงศกร ยืนยันว่าส.ส.อีสานไม่มีใครที่ปฏิเสธคุณหญิงสุดารัตน์ โดยเฉพาะคนที่ร่วมก่อตั้งพรรคมา หรือส.ส.ไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่ รวมถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคอีสาน ไม่มีใครปฏิเสธคุณหญิงสุดารัตน์ และต้องการเห็นคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี การเลือกตั้งที่ผ่านมาประชาชนก็ต้องการเห็นคุณหญิงสุดารัตน์เป็นนายกรัฐมนตรี พวกที่ไม่เห็นด้วยก็ต้องถามว่ามีบทบาทสำคัญอย่างไรในพรรค หรือไม่มีบทบาทแต่ต้องการมีบทบาท และมีวัตถุประสงค์อย่างไร พวกที่พูดอาจจะไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของพรรคหรือไม่
นายพงศกร กล่าวต่อว่า ความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.ขอนแก่น ประธานยุทธศาสตร์พรรคไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบอะไร คนที่เรียกร้องความรับผิดชอบจากประธานยุทธศาสตร์นั้นเป็นวิธีคิดที่ไม่ควรเกิดขึ้น คนที่ออกมาพูดควรต้องรับผิดชอบร่วมกันหรือไม่ ขอถามกลับไปว่าอยากให้ผู้ที่ออกมาพูดแสดงตัวให้ชัดเจน เชื่อว่าคนที่มีแนวคิดเช่นนี้ มีความไม่ชอบส่วนตัวหรือไม่ หรือรับงานมาหรือไม่ มีเจตนาที่ดีต่อพรรคหรือไม่ดีต่อพรรคแน่ ยืนยันว่าในฐานะผู้อาวุโสคนหนึ่งของพรรค ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปพร้อมสนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเช่นเดิม