นายไมเคิล บลูมเบิร์ก ผู้สมัครแข่งขันเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต เพื่อคว้าสิทธิลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา 2020 จ้างทีมงานหาเสียงมากถึง 800 คน ส่วนหนึ่งของแผนการแข่งขันในพื้นที่ 14 รัฐ ที่จะมีการหยั่งเสียงขั้นต้นแบบไพรมารี “ซูเปอร์ ทิวส์เดย์” ในวันที่ 3 มี.ค.
บลูมเบิร์ก มหาเศรษฐีธุรกิจสื่อสารมวลชน และอดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ใช้เงินส่วนตัวระดมจ้างทีมงานช่วยหาเสียง นับตั้งแต่ประกาศตัวเข้าร่วมการแข่งขันชิงเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ในเดือน พ.ย. หลายเดือนหลังจากผู้แข่งขันรายอื่น ๆ ได้เริ่มหาเสียงกันไปแล้ว
ผลสำรวจคะแนนนิยมล่าสุด ในบรรดาผู้แข่งขันเป็นตัวแทนพรรคฝ่ายค้านเดโมแครต บลูมเบิร์กยังตามหลัง 3 ตัวเต็งคือ อดีตรองประธานาธิบดีโจเซฟ ไบเดน, นางเอลิซาเบธ วอร์เรน สมาชิกวุฒิสภาจากรัฐแมสซาชูเซตส์ และนายเบอร์นี แซนเดอร์ สมาชิกวุฒิสภาจากรัฐเวอร์มอนต์ โดยผู้ชนะจะไปชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐ กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐในปัจจุบัน ซึ่งเป็นตัวแทนของพรรครีพับลิกัน
โฆษกหญิงทีมงานรณรงค์หาเสียงของบลูมเบิร์ก เผยว่า จนถึงขณะนี้บลูมเบิร์ก ซึ่งมีสินทรัพย์ตามประเมิน 53,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 1,596,510 ล้านบาท จ้างทีมหาเสียงประมาณ 500 คน ใน 30 รัฐ และอีกประมาณ 300 คน ที่ศูนย์บัญชาการในนครนิวยอร์ก เทียบกับทีมหาเสียงของไบเดน ผู้แข่งขันเต็ง 1 ซึ่งมีทั้งหมดประมาณ 400 คน
โฆษกฯ เผยอีกว่า บลูมเบิร์กใช้เงินซื้อโฆษณาทางทีวีมากกว่า 76 ล้านดอลลาร์ หรือ 2,290 ล้านบาท ระหว่างกลางเดือน พ.ย. ถึงกลางเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่าผู้สมัครแข่งขันคนอื่นๆ ทั้งหมด