ตร.เร่งล่าคนร้ายยิงรถ “บิ๊กโจ๊ก” (คลิป)

2020-01-07 13:05:39

ตร.เร่งล่าคนร้ายยิงรถ “บิ๊กโจ๊ก” (คลิป)

Advertisement


ตำรวจเผยคดียิงรถ “บิ๊กโจ๊ก” คนร้าย 2 คนขี่ จยย.ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนลงมือ พบร่องรอยกระสุน 8 นัด เร่งตรวจภาพจากวงจรปิดล่าตัว

เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร.และโฆษก ตร. เปิดเผยความคืบหน้าคดีคนร้ายก่อเหตุยิงถล่มรถของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำนายกรัฐมนตรี และอดีต ผบช.สตม. ว่า เมื่อวันที่ 6 ม.ค.เวลาประมาณ 20.30 น. คนร้าย 2 คน สวมหมวกกันน็อก ใช้รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเป็นพาหนะขับเข้ามาในซอยสาริกา ถนนสุรวงศ์ เขตบางรัก กทม. และใช้อาวุธปืนยิงใส่ด้านซ้ายของรถยนต์ที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ขับมาจอดไว้บริเวณดังกล่าว และหลบหนีไป โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าทำการตรวจสถานที่เกิดเหตุ ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง และเร่งทำการสืบสวนสอบสวนในคดีดังกล่าว เบื้องต้นจากการตรวจพิสูจน์รถยนต์คันที่ถูกยิง พบร่องรอยถูกกระสุนปืนยิง จำนวน 8 นัด ที่บริเวณข้างตัวรถทางซ้าย บริเวณประตูหน้า 1 นัด และประตูหลัง 7 นัด


“ขอเรียนว่าคดีนี้ถือเป็นคดีสำคัญ ผู้บังคับบัญชาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ลงมากำกับดูแล และสั่งการให้เร่งดำเนินการ ติดตาม เร่งรัด ผลการตรวจสอบวิถีกระสุนปืน ตรวจหัวกระสุน วิเคราะห์เนื้อโลหะของกระสุนปืน ตรวจเปรียบเทียบหัวกระสุนปืนด้วยระบบอัตโนมัติจากกองพิสูจน์หลักฐานกลาง เร่งรัดตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ทั้งก่อนเกิดเหตุ หลังเกิดเหตุ รวมถึงตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณสถานที่เกิดเหตุและในซอยสาริกา ก่อนเกิดเหตุย้อนหลัง 7 วัน และติดตามประจักษ์พยานหรือพยานแวดล้อมหรือบุคคลที่ได้รู้ได้เห็นได้ยินเพิ่มเติมประกอบในคดี หากมีความคืบหน้าจะได้ชี้แจงให้ทราบต่อไป” ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าว

ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวด้วยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้เร่งจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว พร้อมกันนี้ได้กำชับผู้บังคับบัญชาทุกพื้นที่ ให้กำหนดมาตรการป้องกันเหตุ เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุร้ายขึ้นอีก โดยหากเกิดเหตุต้องติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดได้โดยเร็ว ทั้งนี้พนักงานสอบสวนต้องดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน ด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว เป็นธรรม อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงกับผู้ที่ก่อเหตุเป็นสำคัญ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน นักลงทุน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ