“เทพไท” ชี้ราคายางพาราตกต่ำ จ่อนำปัญหาเข้าหารือในที่ประชุม ส.ส.ปชป. 7 ม.ค. เพื่อสอบถามแนวทางแก้ไขจาก รมต.ของพรรค ก่อนพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางพาราจะนัดชุมนุมเคลือนไหวกดดันรัฐบาล
เมื่อวันที่ 5 ม.ค. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เฟซบุ๊กไลฟ์จากหอประชุมหมู่บ้าน ต.สามตำบล อ.จุฬาภรณ์ เรื่องปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในภาคใต้ว่า จากการลงพื้นที่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ได้รับการบอกกล่าวและร้องทุกข์จากพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางพาราเป็นจำนวนมาก ถึงสถานการณ์ราคายางพาราตกต่ำดิ่งลงเรื่อยๆ สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เพราะพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง มีรายได้เลี้ยงครอบครัวจากการขายยางพาราเพียงอย่างเดียว เมื่อราคายางพาราตกต่ำก็กระทบต่อรายได้ของครอบครัว ที่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน การส่งเสียบุตรหลานเรียนหนังสือ ค่าผ่อนรถยนต์ และดอกเบี้ยเงินกู้ของ ธ.ก.ส. ล้วนแล้วแต่มีความจำเป็นทั้งสิ้น ซึ่งในขณะนี้ราคายางพาราในท้องตลาดราคา กก.ละ30-35บาท และมีแนวโน้มจะตกต่ำลงเรื่อยๆ แม้ว่านโยบายของรัฐบาลในการประกันรายได้เกษตรกรได้ประกาศใช้แล้วก็ตาม แต่ก็เป็นเพียงมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรเฉพาะหน้า ไม่ทั่วถึงกับเกษตรกรทุกคนเหมือนราคาทั่วไปในท้องตลาด ทำให้ชาวสวนยางพาราทุกคนหวนระลึกถึงยุครัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เมื่อปี2553 ที่ราคายางพาราสูงถึง กก.ละ 180-200 บาท ซึ่งโอกาสอย่างนั้นคงไม่มีให้เห็นอีกแล้ว แต่ชาวสวนยางก็คาดหวังเพียงให้ราคายางพารา กก.ละ 60 บาท เท่ากับราคาประกันรายได้เกษตรกรในตอนนี้ เพื่อรัฐบาลจะได้ไม่ต้องแบกภาระส่วนต่างจากราคาประกันรายได้ของเกษตรกร ซึ่งเป็นภาระด้านงบประมาณแผ่นดินของรัฐบาลจำนวนมาก
นายเทพไท กล่าวต่อว่า สำหรับนโยบายประกันรายได้เกษตรกร ในจำนวนพืชหลัก 5 ชนิด คือ ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ยางพารา และปาล์มนำ้มันนั้น รัฐบาลได้แก้ปัญหารายได้ให้กับเกษตรกรทุกอาชีพได้ระดับหนึ่ง ยกเว้นเกษตรกรชาวสวนยางพาราเท่านั้น ส่วนเกษตรกรชาวสวนปาล์ม รัฐบาลประกันรายได้ราคาปาล์มนำ้มัน 18 เปอร์เซ็นต์ ราคา กก.ละ4บาท แต่ขณะนี้ราคาปาล์มนำ้มันขยับสูงขึ้นเป็น กก.ละ6.50บาท สูงกว่าราคาประกันรายได้เกษตรกรของรัฐบาลแล้ว ทำให้รัฐบาลไม่ต้องชดเชยส่วนต่างใดๆทั้งสิ้น สำหรับราคายางพาราที่ตกต่ำลงเรื่อยๆในขณะนี้ นับว่าเป็นความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส ในฐานะที่เป็น ส.ส.คนหนึ่งที่มีพื้นที่เลือกตั้งประกอบด้วยเกษตรชาวสวนยางพาราเป็นส่วนใหญ่ จะนำปัญหาราคายางพาราตกต่ำ เข้าหารือในที่ประชุม ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ในวันอังคารที่7ม.ค.นี้ก่อน เพื่อสอบถามปัญหา และแนวทางแก้ไขจากรัฐมนตรีของพรรค ทั้งกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นเบื้องต้น ก่อนที่พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางพาราจะนัดชุมนุมเคลือนไหวกดดันรัฐบาลต่อไป
“ขอให้พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางพาราใจเย็นอีกนิด รอฟังแนวทางแก้ไขปัญหาของรัฐบาลก่อน ตนในฐานะ ส.ส.คนหนึ่งจะไม่นิ่งดูดาย จะทำหน้าที่เป็นปากเสียงให้กับพี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน”นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท กล่าวด้วยว่า ส่วนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ตำหนิผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์การแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า ไม่ได้เสนอแนวทางแก้ไขด้วยนั้น วันนี้เมื่อตนเองได้พูดถึงปัญหาราคายางพาราตกต่ำแล้ว จะขอเสนอแนวทางแก้ไขให้รัฐบาลด้วย คือขอเสนอให้รัฐบาลจัดงบประมาณปีละ1แสนล้าน รับซื้อนำ้ยางพารา เพื่อนำไปทำถนนลาดยางในชนบท แก้ปัญหาถนนลูกรังทั่วประเทศ ซึ่งมีระยะทางประมาณ8-9แสนกิโลเมตร เป็นการลงทุนปรับโครงสร้างพื้นฐานของคนในชนบทครั้งใหญ่ คุ้มค่าแก้การลงทุน จะได้รับประโยชน์หลายในด้าน เช่น1.เป็นการล้างสต๊อคยางทั้งหมด ทำให้ราคายางพาราปรับตัวสูงขึ้น
2.คนในชนบทจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีถนนปลอดฝุ่นใช้สัญจรไปมาในหมู่บ้าน 3.การขนส่งผลผลิตทางการเกษตรออกสู่ตลาด ได้คล่องตัว สะดวกสบาย ประหยัดค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก ถ้าหากพล.อ.ประยุทธ์รับข้อเสนอดังกล่าวแล้ว สามารถแก้ไขปัญหาราคายางพารา ได้มากกว่าโครงการทำหมอนยางพาราประชารัฐ30ล้านใบ แจกให้กับประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นเพียงนโยบายประชานิยมแบบเดิมๆเท่านั้น